แนวทางป้องกันกลโกงถูกรางวัลที่ 1

กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – บอร์ดกองสลากฯ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะคนดวงเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไปขึ้นเงินรางวัลได้เลย โดยไม่ต้องลงบันทึกประจำวัน ป้องกันกลโกงรางวัลที่ 1 จากมิจฉาชีพ



เมื่อรู้ว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 สิ่งแรกที่คนดวงเฮงทำ คือ การไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จนตกเป็นข่าวใหญ่ โดยไม่ทันระวังตัวว่าจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่มักไปแจ้งความดำเนินคดี เพื่อแย่งสิทธิ์การถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มาเป็นของตัวเอง เช่น กรณีของสามีภรรยาชาวร้อยเอ็ด ซึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เงินไป 18 ล้านบาท แต่ภายหลังถูกหนุ่มบุรีรัมย์แจ้งความดำเนินคดีว่าไปขโมยลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวมาจากบ้านพักของเขา สุดท้ายผลตรวจลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอชี้ชัด สามีภรรยาชาวร้อยเอ็ดเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง


งวดล่าสุด 1 พฤศจิกายน อดีตนายตำรวจถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 30 ล้านบาท ถูกครูชาวกาญจนบุรีแจ้งความดำเนินคดีว่าขโมยลอตเตอรี่ไปขึ้นรางวัล ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง

โฆษกคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บอกว่า การตรวจสอบสิทธิ์เพื่อหาเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ตัวจริง ทำได้ยาก และไม่ได้อยู่ในอำนาจของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อมีผู้นำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มาขึ้นรางวัล หากตรวจสอบแล้ว สลากฯ อยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีเลขชุดที่ ตัวเลขรางวัล 6 หลัก และเลขงวดประจำวันที่ ตรงกับฉบับต้นขั้ว รวมถึงไม่มีการแจ้งความขออายัด ก็จะมอบเงินรางวัลให้ 


ข้อมูลจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ในละปีมีผู้แจ้งความดำเนินคดีขออายัดลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพียง 2-3 ราย/ปีเท่านั้น ส่วนกรณีนำลอตเตอรี่ปลอมมาขึ้นเงินรางวัลที่ 1 พบมากกว่า 5,000 ราย/ปี ซึ่งการป้องกันการถูกแอบอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทำได้ง่ายๆ ด้วยการถ่ายภาพตัวเองคู่กับลอตเตอรี่ และเซ็นชื่อกำกับด้านหลังสลากฯ

สอดคล้องกับคำแนะนำของโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ถ่ายภาพคู่ไว้เป็นหลักฐานเช่นกัน โดยสามารถนำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไปขึ้นรางวัลได้เลย โดยไม่ต้องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยืนยัน หากภายหลังมีผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากฯ ชุดเดียวกัน 

ส่วนผู้ที่กุเรื่องแจ้งความกล่าวหาคนอื่นขโมยสลากฯ อาจถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย