กรมชลฯ ระบุหลายพื้นที่ภาคใต้เข้าสู่ภาวะปกติ

กรุงเทพฯ  4 ธ.ค. – กรมชลประทานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ หลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง


นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 

สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี บริเวณสถานีวัดน้ำ X-37A บ.ย่านดินแดง อ.พระแสง ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งประมาณ 55 เซนติเมตร และที่ บ.เคียนซา อ.เคียนซา มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งประมาณ 12 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่อื่น ๆ มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายทั่วทั้งจังหวัด โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ  4 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองท่าโพธิ์ และประตูระบายน้ำคลองไชยา พร้อมกับนำรถแบ็คโฮดำเนินการกำจัดเศษขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 2-3 วัน หากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่


จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ลานสกา อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งสง อ.นาบอน อ.ชะอวด อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร อ.ทุ่งใหญ่ อ.พระพรหม และ อ.ปากพนัง กรมชลประทาน ได้เดินเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และเครืองผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน(4 ธ.ค.60) สถานการณ์เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ระดับน้ำในคลองท่าดีที่สถานีวัดน้ำ X.200 อ.ลานสกา ซึ่งเป็นต้นน้ำคลองท่าดี ยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.63 เมตร ส่วนพื้นที่ตอนล่างบริเวณสถานีวัดน้ำ X.203 อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 42 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำในคลองท่าดีเพิ่มขึ้นสลับลดลงตามจังหวะปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ ในส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังได้เร่งระบายน้ำผ่านคลองชะอวด-แพรกเมือง โดยประตูระบายน้ำคลองชะอวด-แพรกเมือง เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง สรุปการสนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ในเขต จ.นครศรีธรรมราช กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 51 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 26 เครื่อง เพื่อสูบและระบายน้ำออกจากพื้นที่ต่าง ๆ เร็วที่สุด

จังหวัดตรัง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นาโยง อ.เมือง อ.วังวิเศษ และอ.กันตัง ระดับน้ำในแม่น้ำตรัง ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่บริเวณสถานีวัดน้ำ X.234 บ.ป่าหมาก อ.เมือง มีน้ำล้นตลิ่ง 50 เซนติเมตร แนวโน้มลดลง สำหรับกรณีที่เกิดคันกั้นน้ำแม่น้ำตรังที่ขาด 2 จุด บริเวณ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง 1 จุด และอีกจุดบริเวณ ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง นั้น ปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตต.บางรัก ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลอันดามัน  โครงการชลประทานตรัง ได้เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 4 เครื่อง เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำตรังลดลงต่ำกว่าตลิ่งจะดำเนินการสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำต่อไป

จังหวัดพัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ศรีนครินทร์ อ.ศรีบรรพต และอ.ควนขนุน แนวโน้มระดับน้ำเริ่มลดลง กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานพัทลุง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง อีก 10 เครื่องติดตั้งในเขตเทศบาลตำบลพนางตุง อ.ควนขนุน และยังมีเครื่องผลักดันน้ำอีก 10 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด


จังหวัดสงขลา ฝนตกหนักต่อเนื่องช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 28 อำเภอ แม้ว่าปัจจุบันปริมาณฝนจะลดน้อยลงแล้ง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง กรมชลประทน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ รวม 33 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 16 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังให้เร็วที่สุด แนวโน้มสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 4 วัน

ส่วนพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาบริเวณสถานีวัดน้ำ X.90 บ.บางศาลา อ.คลองหอยโข่ง ที่อยู่ทางตอนบน ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.12 เมตร แนวโน้มลดลง ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำในคลองอู่ตะเภามีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ 1,000 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทาน จะใช้คลองระบายน้ำ ร.1 แบ่งรับน้ำเพื่อลดปริมาณน้ำในคลองอู่ตะเภาที่จะไหลผ่านลงสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ ได้กว่า 815 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะเร่งระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาต่อไป สำหรับการเตรียมความพร้อมการช่วยเหลือ กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 56 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 16 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่หากเกิดน้ำท่วมขัง 

จังหวัดสตูล ปริมาณฝนลดน้อยลงส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ส่วนใหญ่คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติทุกพื้นที่แล้ว โครงการชลประทานสตูล ได้เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง  ไว้รองรับหากเกิดฝนตกหนักลงมาอีกในระยะนี้ จังหวัดปัตตานี ปริมาณฝนลดน้อยลง ยังคงมีพื้นที่ 7 อำเภอได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง ได้แก่ อ.หนองจิก อ.ยะรัง  อ.สายบุรี อ.โคกโพธิ์ อ.ไม้แก่น อ.ปะนาเระ และอ.เมืองปัตตานี  ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่สถานีวัดน้ำ X.10A บริเวณสะพานเดชานุชิต อ.เมือง สูงกว่าตลิ่ง 2 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม

จังหวัดยะลา ปริมาณฝนตกลดลง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.รามัน และอ.ยะหา ที่มีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขัง ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีบริเวณสถานีวัดน้ำ X.40A อ.เมืองยะลา ต่ำกว่าตลิ่ง 2.20 เมตร แนวโน้มลดลง ส่วนที่สถานีวัดน้ำ X.40B อ.เมืองยะลา ระดับน้ำได้ลดต่ำกว่าตลิ่งแล้ว 14 เซนติเมตร แนวโน้มลดลงเช่นกัน กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานยะลา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง บริเวณฟาร์มตัวอย่างวังพญาท่าธง อ.รามัน เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำหากเกิดน้ำท่วมขังแล้ว

จังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.จะแนะ อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.สุคิริน อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี และอ.แว้ง ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลกที่สถานีวัดน้ำ X.119A บริเวณสะพานลันตู ในเขตเทศบาลเมือง สุไหงโก-ลก สูงกว่าตลิ่ง 1.47 เมตร มีแนวโน้มลดลง คาดว่าจะต่ำกว่าตลิ่งภายใน 1-2 วันนี้ กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 12 เครื่องตามจุดต่าง ๆ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่ท่วมขังผ่านคลองระบายน้ำต่าง ๆ 19 สาย เพื่อให้ไหลลงสู่ทะเลเร็วขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาค 2 สั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์

22 มิ.ย.- กองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ 21 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องการควบคุม การเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี มีอำนาจการควบคุมการเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสมในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดงของประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งให้เกิดความเหมาะสมต่อการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน และความมั่นคงของประเทศไทย กองทัพภาคที่ 2 จึงอนุมัติให้ปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป. – สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยไทยมีฝนเพิ่ม เตือนตะวันออก รับมือฝนถล่ม

กทม. 22 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคตะวันออก เตรียมรับมือฝนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

โผ ครม. แพทองธาร 2 หลังภูมิใจไทยถอนตัว

21 มิ.ย. – สะพัดโผ ครม. แพทองธาร ชุดใหม่ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” นั่ง มท.1 พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หรือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งกลาโหม ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน ส่งผลให้ ครม. ว่างลง 8 ตำแหน่ง โผการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุด ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีชื่อของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะไปนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ ยืนยันว่า พร้อมไปทำงานในทุกตำแหน่งที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย ส่วน รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 2) มีชื่อ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ จะสลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 3) ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม […]

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]