เปิดใจสาวแบงก์ผู้แฉพฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ราชบุรี 1 ธ.ค.-เปิดใจสาวแบงค์ที่รู้เท่าทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมแฉพฤติกรรมหลอกลวงผ่านทางเฟซบุ๊ก ด้านตำรวจตามรวบหนุ่มเจ้าของบัญชีได้แล้ว อ้างไม่รู้เรื่อง แค่รับจ้างเปิดบัญชี


หลังจากมีการแพร่ภาพสดของสาวแบงก์คนหนึ่งที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกว่าบัญชีธนาคารของตนเองนั้นมีปัญหา และพัวพันกับการกู้เงินกับธนาคารแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ และให้โอนเงินไปทำการตรวจสอบเลขที่ธนบัตร ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะโอนคืนให้ ทำให้สาวแบงก์คนนี้ตัดสินใจแพร่ภาพสดทางเฟซบุ๊ก เพื่อแฉพฤติกรรมของแก๊งนี้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย.60 ที่ผ่านมา

(30 พ.ย.60 ) ผู้สื่อข่าวจึงได้ตรวจสอบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวที่แพร่ภาพสดนั้นเป็นใคร จนทราบว่า คือนางสาวมารีนา แสงฉาย เป็นพนักงานธนาคารอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมืองราชบุรี จึงได้ติดต่อขอพูดคุย โดยนางสาวมารีนา ได้เปิดใจเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาบอกว่า เราไปกู้เงินกับธนาคารแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ซึ่งก็มั่นใจว่าไม่มีการไปกู้เงินอยู่แล้ว จึงพยายามหลอกถามข้อมูลทุกอย่างและมีการนำผู้กอง สารวัตร มากล่าวอ้าง จึงได้เล่นตามเกมส์ไปเรื่อยๆ ซึ่งการพูดของแก๊งนี้น่าเชื่อถือมาก สภาพแวดล้อมน่าเชื่อถือ มีการใช้วิทยุสื่อสารไปบอกและบอกให้เช็กได้ว่ามาจากไหน น่าสนใจมากเพราะทำกันเป็นทีม คุยมาจนกระทั่งชั่วโมงกว่า จึงได้รวบรัดตัดตอนขอเลขบัญชี และแกล้งทำเป็นร้องไห้ เมื่อทางแก๊งเห็นว่าเราเชื่อจึงให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม โดยให้กดเงินออกมาทั้งหมดและส่งไปให้เขาตรวจสอบ ซึ่งตนเองก็บอกว่ามีอยู่เงินอยู่ 250,000 บาท ทางแก๊งก็บอกว่าให้ส่งไปตรวจหมายเลขธนบัตร 200,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาทให้เอาไว้ใช้ ตนเองก็แกล้งไปทำรายการที่ตู้ จนได้ข้อมูลทุกอย่าง และส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว  


ส่วนการแพร่ภาพสดนั้นเพราะอัดวิดีโอจนความจำในโทรศัพท์เต็ม จึงตัดสินใจแพร่ภาพสดทางเฟซบุ๊ก ไม่คิดว่าจะมีคนดูขนาดนั้น และก็อยากฝากเตือนถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่าไปกลัว และถ้าจะมีการฟ้องร้องหรืออายัดทรัพย์สินนั้นเขาจะไม่มีการโทรมาก่อน แต่จะส่งหนังสือที่มีตราครุฑแจ้งเตือนมา และเราทำอะไรเราต้องรู้อยู่แล้ว และถ้ามีญาติผู้ใหญ่เราควรจะใส่ใจดูแลอย่าให้คนเหล่านี้มาหลอกได้ อย่างไรก็ตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พนักงานธนาคารได้ซ้อนแผนหลอก และให้โอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนดไว้ ซึ่งปรากฏเป็นชื่อของนายพลูสวัสดิ์ คำภิระแปง อยู่บ้านเลขที่ 163 ถ.ประตูม้า ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง 

วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง นำโดย พ.ต.ท.จิรัฏฐ์ จิรพัชรศิรพร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองลำปาง นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 163 ถ.ประตูม้า แต่ปรากฏว่าบ้านปิดเงียบมีเพียงสุนัขที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านเท่านั้น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังออกติดตาม จนพบว่านายพลูสวัสดิ์ หรือโย เป็นช่างซ่อมรถ และทำงานอยู่ที่ร้านซ่อมรถใกล้บ้านจึงได้ไปติดตามสอบถามจนกระทั่งทราบว่า นายโย ได้เดินทางออกไปยังธนาคารเพื่อจะปิดบัญชี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปและพบตัวจริงจึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองลำปาง


นายพลูสวัสดิ์ คำภิระแปง อายุ 37 ปี ได้ให้การว่า ตนเองยอมรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้คนแปลกหน้าจริง แต่ไม่รู้ไม่เห็นกับการนำสมุดบัญชีไปกระทำความผิดใดๆ โดยนายพลูสวัสดิ์ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้มีคนมาชักชวนแต่ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเป็นคนจังหวัดลำปาง โดยเสนอเงื่อนไขเพียงแค่ว่า ให้ไปเปิดบัญชีและนำสมุด บัตรเอทีเอ็ม มาให้ หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็ให้ไปปิดบัญชี ก็จะได้รับเงินหนึ่งพันบาท ซึ่งไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวใหญ่โตอะไร เพียงแค่การเปิดบัญชีให้เท่านั้น จึงได้ไปเปิดบัญชีธนาคารซึ่งจำได้ว่าในวันนั้นได้มีคนที่ถูกชักชวนไปเปิดบัญชีด้วยกันสองคน เมื่อเปิดบัญชีและได้สมุดและบัตรมาแล้วก็ให้กับคนที่มาชักชวนไปและก็ได้รับเงินมาหนึ่งพันบาท ซึ่งตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ครบเดือน ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุในลักษณะนี้ จนกระทั่งมีข่าวออกมาเมื่อวานนี้ ตนเองก็ตกใจและวันนี้จึงจะรีบไปปิดบัญชี และจะมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองลำปาง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเองว่าไม่มีส่วนรู้เห้นกับการหลอกหลวงดังกล่าว แต่ยอมรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารจริง

ส่วนการดำเนินคดีนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพราะยังไม่มีผู้เสียหาย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นและอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดลำปาง จึงได้นำตัวนายพลูสวัสดิ์ มาสอบปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลไว้ในเบื้องต้นก่อน ขณะที่นายพลูสวัสดิ์ เองก็ยินดีให้ข้อมูลและต้องการมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเองด้วย ส่วนหลังจากนี้หากมีผู้เสียหายที่เกิดจากการกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และได้โอนเงินเข้าบัญชีของนายพลูสวัสดิ์จริงและผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปอีกครั้ง

ด้าน นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารชื่นชม น.ส.มารีนา ที่มีความกล้าหาญ เสียสละที่จะช่วยป้องกันมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นห่วงมากที่สุดเรื่องความปลอดภัยของพนักงานของเรา เนื่องจากยังต้องทำงานอยู่ในพื้นที่ เมื่อไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนแล้วก็ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของเขาต่อไป โดยยืนยันจากกระแสข่าวในโลกโซเชียลว่า จะถูกทางธนาคารลงโทษหรือไม่นั้น ธนาคารไม่มีนโยบายที่จะลงโทษพนักงานตามที่มีกระแสข่าวออกมา

เมื่อถามว่า มีเฟซบุ๊กทนายความรายหนึ่งระบุว่า การที่พนักงานธนาคารไปค้นข้อมูลเลขที่บัญชีที่ได้รับจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มีความผิดหรือไม่ นายสารัชต์ เห็นว่าเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นนโยบายธนาคารอยู่แล้วที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลูกค้า แต่ทุกอย่างก็ต้องดูเหตุผลและผลกระทบ เช่น วัตถุประสงค์ พนักงานตั้งใจที่จะเอาข้อมูลลูกค้าเอาไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นหรือไม่ พร้อมย้ำธนาคารจะไม่มีการลงโทษใดๆ แก่พนักงานรายนี้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]