เปิดใจสาวแบงก์ผู้แฉพฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ราชบุรี 1 ธ.ค.-เปิดใจสาวแบงค์ที่รู้เท่าทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมแฉพฤติกรรมหลอกลวงผ่านทางเฟซบุ๊ก ด้านตำรวจตามรวบหนุ่มเจ้าของบัญชีได้แล้ว อ้างไม่รู้เรื่อง แค่รับจ้างเปิดบัญชี


หลังจากมีการแพร่ภาพสดของสาวแบงก์คนหนึ่งที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกว่าบัญชีธนาคารของตนเองนั้นมีปัญหา และพัวพันกับการกู้เงินกับธนาคารแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ และให้โอนเงินไปทำการตรวจสอบเลขที่ธนบัตร ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะโอนคืนให้ ทำให้สาวแบงก์คนนี้ตัดสินใจแพร่ภาพสดทางเฟซบุ๊ก เพื่อแฉพฤติกรรมของแก๊งนี้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย.60 ที่ผ่านมา

(30 พ.ย.60 ) ผู้สื่อข่าวจึงได้ตรวจสอบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวที่แพร่ภาพสดนั้นเป็นใคร จนทราบว่า คือนางสาวมารีนา แสงฉาย เป็นพนักงานธนาคารอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมืองราชบุรี จึงได้ติดต่อขอพูดคุย โดยนางสาวมารีนา ได้เปิดใจเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาบอกว่า เราไปกู้เงินกับธนาคารแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ซึ่งก็มั่นใจว่าไม่มีการไปกู้เงินอยู่แล้ว จึงพยายามหลอกถามข้อมูลทุกอย่างและมีการนำผู้กอง สารวัตร มากล่าวอ้าง จึงได้เล่นตามเกมส์ไปเรื่อยๆ ซึ่งการพูดของแก๊งนี้น่าเชื่อถือมาก สภาพแวดล้อมน่าเชื่อถือ มีการใช้วิทยุสื่อสารไปบอกและบอกให้เช็กได้ว่ามาจากไหน น่าสนใจมากเพราะทำกันเป็นทีม คุยมาจนกระทั่งชั่วโมงกว่า จึงได้รวบรัดตัดตอนขอเลขบัญชี และแกล้งทำเป็นร้องไห้ เมื่อทางแก๊งเห็นว่าเราเชื่อจึงให้ไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม โดยให้กดเงินออกมาทั้งหมดและส่งไปให้เขาตรวจสอบ ซึ่งตนเองก็บอกว่ามีอยู่เงินอยู่ 250,000 บาท ทางแก๊งก็บอกว่าให้ส่งไปตรวจหมายเลขธนบัตร 200,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาทให้เอาไว้ใช้ ตนเองก็แกล้งไปทำรายการที่ตู้ จนได้ข้อมูลทุกอย่าง และส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว  


ส่วนการแพร่ภาพสดนั้นเพราะอัดวิดีโอจนความจำในโทรศัพท์เต็ม จึงตัดสินใจแพร่ภาพสดทางเฟซบุ๊ก ไม่คิดว่าจะมีคนดูขนาดนั้น และก็อยากฝากเตือนถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่าไปกลัว และถ้าจะมีการฟ้องร้องหรืออายัดทรัพย์สินนั้นเขาจะไม่มีการโทรมาก่อน แต่จะส่งหนังสือที่มีตราครุฑแจ้งเตือนมา และเราทำอะไรเราต้องรู้อยู่แล้ว และถ้ามีญาติผู้ใหญ่เราควรจะใส่ใจดูแลอย่าให้คนเหล่านี้มาหลอกได้ อย่างไรก็ตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พนักงานธนาคารได้ซ้อนแผนหลอก และให้โอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนดไว้ ซึ่งปรากฏเป็นชื่อของนายพลูสวัสดิ์ คำภิระแปง อยู่บ้านเลขที่ 163 ถ.ประตูม้า ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง 

วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง นำโดย พ.ต.ท.จิรัฏฐ์ จิรพัชรศิรพร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองลำปาง นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 163 ถ.ประตูม้า แต่ปรากฏว่าบ้านปิดเงียบมีเพียงสุนัขที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านเท่านั้น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังออกติดตาม จนพบว่านายพลูสวัสดิ์ หรือโย เป็นช่างซ่อมรถ และทำงานอยู่ที่ร้านซ่อมรถใกล้บ้านจึงได้ไปติดตามสอบถามจนกระทั่งทราบว่า นายโย ได้เดินทางออกไปยังธนาคารเพื่อจะปิดบัญชี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปและพบตัวจริงจึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองลำปาง


นายพลูสวัสดิ์ คำภิระแปง อายุ 37 ปี ได้ให้การว่า ตนเองยอมรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้คนแปลกหน้าจริง แต่ไม่รู้ไม่เห็นกับการนำสมุดบัญชีไปกระทำความผิดใดๆ โดยนายพลูสวัสดิ์ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้มีคนมาชักชวนแต่ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเป็นคนจังหวัดลำปาง โดยเสนอเงื่อนไขเพียงแค่ว่า ให้ไปเปิดบัญชีและนำสมุด บัตรเอทีเอ็ม มาให้ หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็ให้ไปปิดบัญชี ก็จะได้รับเงินหนึ่งพันบาท ซึ่งไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวใหญ่โตอะไร เพียงแค่การเปิดบัญชีให้เท่านั้น จึงได้ไปเปิดบัญชีธนาคารซึ่งจำได้ว่าในวันนั้นได้มีคนที่ถูกชักชวนไปเปิดบัญชีด้วยกันสองคน เมื่อเปิดบัญชีและได้สมุดและบัตรมาแล้วก็ให้กับคนที่มาชักชวนไปและก็ได้รับเงินมาหนึ่งพันบาท ซึ่งตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ครบเดือน ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุในลักษณะนี้ จนกระทั่งมีข่าวออกมาเมื่อวานนี้ ตนเองก็ตกใจและวันนี้จึงจะรีบไปปิดบัญชี และจะมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองลำปาง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเองว่าไม่มีส่วนรู้เห้นกับการหลอกหลวงดังกล่าว แต่ยอมรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารจริง

ส่วนการดำเนินคดีนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพราะยังไม่มีผู้เสียหาย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นและอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดลำปาง จึงได้นำตัวนายพลูสวัสดิ์ มาสอบปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลไว้ในเบื้องต้นก่อน ขณะที่นายพลูสวัสดิ์ เองก็ยินดีให้ข้อมูลและต้องการมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเองด้วย ส่วนหลังจากนี้หากมีผู้เสียหายที่เกิดจากการกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และได้โอนเงินเข้าบัญชีของนายพลูสวัสดิ์จริงและผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปอีกครั้ง

ด้าน นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารชื่นชม น.ส.มารีนา ที่มีความกล้าหาญ เสียสละที่จะช่วยป้องกันมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นห่วงมากที่สุดเรื่องความปลอดภัยของพนักงานของเรา เนื่องจากยังต้องทำงานอยู่ในพื้นที่ เมื่อไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนแล้วก็ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของเขาต่อไป โดยยืนยันจากกระแสข่าวในโลกโซเชียลว่า จะถูกทางธนาคารลงโทษหรือไม่นั้น ธนาคารไม่มีนโยบายที่จะลงโทษพนักงานตามที่มีกระแสข่าวออกมา

เมื่อถามว่า มีเฟซบุ๊กทนายความรายหนึ่งระบุว่า การที่พนักงานธนาคารไปค้นข้อมูลเลขที่บัญชีที่ได้รับจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มีความผิดหรือไม่ นายสารัชต์ เห็นว่าเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นนโยบายธนาคารอยู่แล้วที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลูกค้า แต่ทุกอย่างก็ต้องดูเหตุผลและผลกระทบ เช่น วัตถุประสงค์ พนักงานตั้งใจที่จะเอาข้อมูลลูกค้าเอาไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นหรือไม่ พร้อมย้ำธนาคารจะไม่มีการลงโทษใดๆ แก่พนักงานรายนี้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]