พล.ร.ต. พาลูกชายให้ปากคำแจ้งความครูฝึกรีคอน

ชลบุรี 29 พ.ย.-อดีตทหารเรือยศ พล.ร.ต. พาลูกชายเข้าให้ปากคำแจ้งความเอาผิดครูฝึกรีคอน หลังได้รับบาดเจ็บจากการฝึก


จากกรณีอดีตทหารเรือยศพลเรือตรี ทุบทำลายแท่นรับการเคารพของครูฝึก ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เนื่องจากไม่พอใจที่บุตรชายพ้นสภาพการเป็นนักเรียนหลักสูตรรีคอน หรือหลักสูตรรบพิเศษ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เพราะบาดเจ็บ ล่าสุดวันนี้เข้าให้ปากเพื่อเอาผิดกับครูฝึกแล้ว

วันนี้ 29 พ.ย.60 ที่สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พล.ร.ต.เบญจพร บวรสุวรรณ นายทหารนอกราชการ ได้พา ร.ต.ตถาพร บวรสุวรรณ ซึ่งเป็นลูกชาย เข้าให้ปากคำรองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบเจ้าของคดี หลังแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน กรณีได้รับบาดเจ็บจากการฝึกหลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมนาวิกโยธิน หรือรีคอน ซึ่งเป็นหลักสูตรหน่วยรบพิเศษ นาวิกโยธิน จนได้รับบาดเจ็บ ซี่โครงขวาหัก 2 ซี่ มีแผลที่หลัง และติดเชื้อในกระแสเลือดต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล


ซึ่งในการให้ปากคำวันนี้ ร.ต.ตถาพร บอกว่าอยากจะออกมากอบกู้เกียรติยศ และเกียรติภูมิของครอบครัวผม ที่ถูกกล่าวหา ถูกบิดเบือนข่าว ที่กล่าวหาว่าตนเองอ่อนแอ ฝึกไม่ไหว ที่กล่าวหาว่าตนเองตกจากที่สูง ทำให้ซี่โครงหัก แผลเกิดจากฝึก ซึ่งเหตุการณ์อย่างนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะโดนมากับตัว ไม่ควรจะมาใส่ความกันอย่างนี้ ซึ่งที่จริงตนเองถูกครูฝึกใช้หางกระเบน และไม้หวาย เฆี่ยนตี ที่แผ่นหลัง และใช้เท้าเตะ เข้าที่ชายโครง พร้อมถูกใช้ด้ามปืนเอ็ม 16 ตีที่ศีรษะ ส่วนอาการที่บาดเจ็บดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องกลับไปรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือต่อ

ด้าน พล.ร.ต.เบญจพร บวรสุวรรณ นายทหารนอกราชการ กล่าวว่า “วันนี้เราพาลูกชายมาให้ปากคำเรื่องของรายละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้บังคับบัญชาของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้โทรศัพท์ไปหาผมบ่อย ประมาณ 4-5 ครั้ง ก็ได้แต่ขอโทษ ถ้าจะขอโทษก็อย่ามาพูดแต่ปากว่าตาขยิบ ให้มีความเป็นลูกผู้ชาย มีความเป็นชายชาติทหาร เอาเรื่องจริงมาพูดกัน ไม่ใช้ไปบอกว่าเด็กมันตกมาจากที่สูง แล้วก็ไปบอกว่าจะไม่ให้ข่าวแล้วแต่ก็ยังไปให้ข่าวที่ผิดๆ แบบนี้มันไม่ใช้ชายชาติทหาร มันผิดเพี้ยงไปหมดแล้ว หลักสูตรมันต้องถูกยกเลิก และทบทวนใหม่ในการฝึก หัวใจของหลักสูตรรีคอน มันจะต้องใช้สมองมากกว่ากำลัง ฝากบอกไปยังน้องๆ นักรบรีคอนด้วย เพราะผมก็ผ่านการฝึกหลักสูตรนี้มา รุ่นที่ 15 และรุ่นผมก็มีเสียชีวิต แต่เป็นป่วยโรคมาลาเรียแล้วไม่ได้รับการรักษา เรื่องนี้ผมอยากจะบอกไปถึงทุกหลักสูตร ที่ยืนยันว่าการเฆี่ยนตี ทำให้คนฉลาด จะทำให้คนที่จบนำหน่วยไปได้อย่างปลอดภัยมันไม่ใช่ ในเมื่อครูฝึกยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่ารีคอน และจับมาฝึกเขาได้ยังไง คำว่าครูต้องทำตัวให้สมกับคำว่า เป็นพี่ใหญ่ใจดีที่แสนโหด พวกคุณท่องไว้เลยถ้าอยากจะเป็นครูรบพิเศษ คุณเข้าใจคำๆ นี้หรือเปล่า ถ้าเด็กไม่ไหวก็ควรจะบอกลูกศิษย์ให้ลาออกไป ไม่ใช้มาเฆี่ยนตีแบบนี้ ลูกผมเนี่ยสลบไปแล้ว อาเจียนแล้วยังไปตีฟาดๆ อยู่นั่น มันทำกันไม่ได้ครับ เพราะไปแตะเนื้อต้องตัวเขาไม่ได้ ที่มีข่าวผมไปขโมยเอาปืนที่หน่วยออกมานั้น ผมนำมาเพื่อเอาไปแจ้งความโดยผมได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาหน่วยไปแล้ว โดยปืนประจำตัวลูกผมนั้นบริเวณท้ายปืนมีรอยแตกเนื่องจากการนำท้ายปืนไปตีศีรษะลูกผม ซึ่งตอนเกิดเหตุผมไปกับลูกสาว 2 คน ซึ่งตอนผมไปเอาปืนมีทหารอยู่ที่หน่วยเกือบ 20 คน ถ้าผมไปขโมยมาจริง จะเอาออกมาได้ได้ยังไง และที่มีการกล่าวหาว่าผมไปด่าทหารว่าจะให้เป็นยามนั้นก็ไม่จริง เพราะผมได้ไปที่หน่วยแล้วได้แสดงบัตรว่าผมเป็นนายพลทหารเรือ เกษียญอายุราชการแล้ว แต่ทหารไม่มีการแสดงความเคารพหรือการสวัสดีเลยจึงได้ต่อว่าไปว่าไม่มีสัมมาคารวะ ไม่มีมารยาทสังคม ไม่มีความเป็นอาวุโส ส่วนที่บอกมีการยิงปืนในโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าสิริกิติ์นั้น ก็ไม่ใช้เรื่องจริง เพราะถ้าผมเอาปืน เอ็ม-16 ยิง กำแพงเป็นทะลุไปแล้ว เพราะตอนเอาปืนออกมาจากหน่วยก็ไม่มีลูกและแม็กกาซีนแต่อย่างใด และผมก็คืนปืนไปตั้งแต่วันที่ผมเอาออกมาแล้ว ส่วนที่มีถ่ายรูปภาพคืนปืนนั้นเป็นการคืนครั้งที่ 2 เพื่อเป็นหลักฐานว่าผมได้นำปืนคืนไปแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่าผมได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับ พล.ร.ต.รณรงค์ สิทธินันท์ ผู้บัญชาการศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ไปนั้นก็ไม่ใช้เรื่องจริง ผมได้บอก กับ รณรงค์ ว่า เดียวไปคุยกัน โดยผมบอกให้ รณรงค์ เป็นคนขับพาไป โดยขับไปถึงจันทบุรี พร้อมกับนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน โดยมี พล.ร.ต.นพดล ปัญญาโฉม รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ร่วมรับประทานด้วย เพื่อพูดคุยกันแบบนักรบรีคอนกันก็แค่นั้น”


ด้าน พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ นามดุ้ง รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ บอกว่ากรณีนี้ ถ้ามีผู้ร้องทุกข์เสียหายเราทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายไป เบื้องต้นจะได้เชิญครูฝึกมาให้ปากคำโดยทำหนังสือแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา ซึ่งต้องมีขั้นตอน จึงจะสรุปได้ว่าคดีนี้เป็นการทำร้ายร่างกายหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]