นนทบุรี 29 พ.ย. – พาณิชย์เร่งผลักดันสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยชิงส่วนแบ่งตลาดสหรัฐ เผยข้าว มะพร้าว ธัญพืช ชาสมุนไพร มีโอกาสสูง แนะผู้ส่งออกจับมือผู้นำเข้าหรือสมาคมผู้จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาด
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ไทยในสหรัฐทำการสำรวจโอกาสทางการค้าสำหรับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเกษตรอินทรีย์ในตลาดสหรัฐ พบว่าปัจจุบันสินค้าเกษตรอินทรีย์มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ การบริโภคสินค้าปลอดสารพิษ การให้ความสำคัญกับการปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม และยังพบแนวโน้มใหม่ที่ผู้บริโภคในสหรัฐ นิยมสั่งซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารบริโภคในบ้าน โดยเน้นวัตถุดิบที่เป็นเกษตรอินทรีย์มากขึ้น จากการที่ผู้จำหน่ายรายใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์และขยายตัวของการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้สามารถสั่งซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ง่ายขึ้น
สำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยที่มีโอกาสขยายตลาดในสหรัฐ ได้แก่ กลุ่มข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เช่น ข้าวหอมมะลิ และขนมขบเคี้ยวทำจากข้าวหอมมะลิ เป็นต้น กลุ่มมะพร้าวและผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว เช่น น้ำมันมะพร้าว นมพร้อมดื่มจากมะพร้าว กะทิ น้ำมะพร้าว น้ำตาลมะพร้าว และขนมขบเคี้ยวจากมะพร้าว เป็นต้น กลุ่มธัญพืชและผลไม้อบแห้ง เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง และเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบแห้ง เนยถั่ว ผักและผลไม้อบแห้ง เป็นต้น และกลุ่มชาสมุนไพร เช่น ชาขิง ชาสะระแหน่ ชาตะไคร้ เป็นต้น
ส่วนช่องทางการเข้าสู่ตลาด ผู้ส่งออกจะต้องร่วมมือกับผู้นำเข้าหรือสมาคมผู้จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีความเชี่ยวชาญตลาดผู้บริโภค เพื่อให้สามารถพัฒนาสินค้าตรงตามความต้องการของผู้บริโภค และแสวงหาผู้จัดจำหน่ายที่มีศักยภาพในเขตพื้นที่ตลาดเป้าหมาย เพื่อให้เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งผู้ส่งออกสามารถขอรับคำปรึกษากับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ ซึ่งการเข้าสู่ตลาดจะต้องศึกษาข้อมูลลักษณะพื้นฐานและความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาดเป้าหมายว่าเป็นอย่างไร เพราะกลุ่มบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในสหรัฐมักจะอยู่เป็นครอบครัวเดี่ยว มีสมาชิกครอบครัวไม่มาก จึงนิยมเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์หีบห่อขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่เกินไป และที่สำคัญจะต้องควบคุมคุณภาพการผลิตให้ตรงตามมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์และมีมาตรฐานตามที่สหรัฐกำหนด เพราะองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ และกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ มีความเข้มงวดอย่างมากในการตรวจสอบอาหารนำเข้าสหรัฐ รวมทั้งต้องศึกษาการนำสินค้าเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเกษตรอินทรีย์ในตลาดสหรัฐ เพื่อแนะนำสินค้า เช่น งาน Americas Food and Beverage Show และงาน Natural Expo West เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสินค้าอินทรีย์ที่ได้รับความนิยมในตลาดสหรัฐและมีศักยภาพทำตลาดสูงมาก คือ น้ำมะพร้าว แต่เริ่มมีคู่แข่งมากขึ้น ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยต้องปรับตัว โดยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยอาจจะพิจารณานำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต เน้นการสร้างเรื่องราวความน่าสนใจให้กับสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภค ถัดมาเป็นเครื่องดื่มขมิ้นชัน ที่เริ่มได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภคเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพและบรรเทาอาการอักเสบของร่างกายได้ ซึ่งในการทำตลาด ควรควบคุมคุณภาพไม่ให้มีโลหะหนัก โดยเฉพาะสารตะกั่วเจือปนเกินกำหนด และน้ำผลไม้ทรอปิคอล เช่น น้ำทับทิม น้ำมังคุด และชาหมัก น้ำผึ้งหมัก ที่มีแนวโน้มและโอกาสทางการตลาดมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย