นครพนม 28 พ.ย.-8 ผู้ถูกกล่าวหาพัวพันขบวนการรับผิดแทน น.ส.จอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู ทยอยเข้าพบตำรวจนครพนมเกือบครบทุกคนแล้ว ล่าสุด ประจักษ์พยานในคดีขับรถชนคนตายที่เคยให้การเป็นประโยชน์ต่อ “ครูจอมทรัพย์” กลับคำให้การอีกครั้ง อ้างว่าไม่สบาย มีอาการหลงลืม
นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ ชาว อ.นาแก จ.นครพนม ประจักษ์พยานในคดีครูจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร ที่ยืนยันมาตลอดว่า คนขับรถชนนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิตเมื่อปี 2548 เป็นผู้ชาย จนเป็นพยานอีกหนึ่งความหวังในขั้นตอนการขอรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ แต่การเข้าให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้ นายทัศนีย์ กลับคำให้การว่า มองไม่เห็นคนขับรถที่ก่อเหตุ อ้างว่าไม่สบาย มีอาการหลงลืม จึงเป็นอีกหนึ่งข้อพิรุธที่จะเป็นหลักฐานมัดขบวนการรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ให้แน่นหนายิ่งขึ้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางทัศนีย์ กลับคำให้การ ในชั้นสอบสวนเคยบอกว่า เห็นทะเบียนรถชัดเจน ได้ข้อมูลครบทั้งหมวดอักษร ตัวเลข และจังหวัด ไม่เห็นตัวผู้ก่อเหตุ แต่ในชั้นศาลเบิกความใหม่ว่า จำได้เฉพาะเลข 56 และเห็นผู้ก่อเหตุเป็นชาย รูปร่างสูงใหญ่ ลงมาดูผู้ตาย นางทัศนีย์ ยังปรากฏตัวร่วมกับขบวนการว่าจ้างคนรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ หลายเหตุการณ์สำคัญ ทั้งร่วมกับนายสุริยา นวนเจริญ หรือครูอ๋อง และนายสับ วาปี เข้าพบอดีต ส.ว.มุกดาหาร เพื่อหาทางช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ ปลายปี 56 ขณะที่การพาทั้งนายเสริฐ รูปสะอาด และนายสับ วาปี เข้าพบตำรวจ สภ.นาโดน และ สภ.เรณูนคร อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง ก็มีนางทัศนีย์ รวมอยู่ด้วย เบื้องต้นตำรวจเอาผิดข้อหาแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาอื่น อาทิ เบิกความเท็จ, ซ่องโจร อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยขนาดไหน
นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีครูจอมทรัพย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี แต่เมื่อวานนี้มีตำรวจในท้องที่ไปสอบปากคำในฐานะพยานแล้ว เบื้องต้นให้การปฏิเสธ และพร้อมเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมในวันพรุ่งนี้
การสอบปากคำครูอ๋องวันนี้ ยังคงให้การภาคเสธ รับว่าจ้างให้คนมารับผิดแทนครูจอมทรัพย์ แต่ครูจอมทรัพย์ ไม่ได้ร่วมวางแผนด้วย พฤติการณ์ที่เป็นผู้จัดตั้งขบวนการฯ อ้างว่า เห็นใจเพื่อนสนิทที่ตกเป็นแพะ ทำให้เขาถูกเอาผิดแล้วถึง 5 ข้อหา ทั้งร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จในคดีอาญา ใช้ผู้อื่นเบิกความเท็จ และซ่องโจร
จากคดีจราจรมีผู้ต้องโทษเพียงครูจอมทรัพย์ ผลกระทบจากการใช้ข้อมูลเท็จเพื่อขอรื้อฟื้นคดี ไม่เพียงครูจอมทรัพย์ สุ่มเสี่ยงที่จะกลับเข้าไปรับโทษอีกครั้งในอัตราโทษที่สูงขึ้น แต่ยังมีผู้เกี่ยวข้องอย่างต่ำรวม 6 คน ที่ต้องถูกเอาผิดด้วย ขณะที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครพนมแจ้งว่า คืนแรกของครูจอมทรัพย์ ในขั้นตอนฝากขัง เจ้าตัวนอนไม่ค่อยหลับ ซึ่งต้องใช้เวลาสักพัก จึงจะเริ่มปรับตัว ปรับใจได้.-สำนักข่าวไทย