fbpx

ทีมรื้อคดีครูจอมทรัพย์ ยธ.แจง

ก.ยุติธรรม 28 พ.ย.-ทีมรื้อคดีครูจอมทรัพย์ของ ยธ.แจง ทราบและแจ้งให้ตำรวจทราบก่อนหน้านี้แล้วว่ามีขบวนการรับผิดแทน แต่ที่ยังไม่ยุติรื้อคดีเพราะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัด รถครูจอมทรัพย์ไม่ใช่คันเกิดเหตุ


หลักฐานแผ่นป้ายทะเบียนรถ  บค 56 สกลนคร ที่ระบุว่าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เคยมีการเปลี่ยนจริงในปี2546 ก่อนเกิดอุบัติเหตุในปี2548 เป็นหลักฐานสำคํญชิ้นหนึ่งที่ทีมรื้อคดีครูจอมทรัพย์ ของกระทรวงยุติธรรมเตรียมนำไปชี้แจงกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ และพนักงานสอบสวน ที่เตรียมเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทยอยเข้าให้ปากคำในสัปดาห์หน้า 


ทีมงานยืนยันว่า ในขั้นตอนการรวบรวมข้อเท็จจริงในการรื้อคดี พบว่า นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง นำนายสับวาปี ไปแจ้งความกับตำรวจที่ จ.นครพนม จากนั้นตำรวจ นายสับและนายสุริยา มาขอความช่วยเหลือกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครพนมแต่นายสุริยาไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงได้ติดต่อไปที่สามีและหลานของนางจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูชาว จ.สกลนครให้มายื่นคำร้อง ซึ่งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดได้ตรวจสอบเบื้องต้นและส่งเรื่องมาที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเมื่อปี 2557 ก่อนเสนอมายังนางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการปปช. ซึ่งขณะนั้นเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และส่งต่อให้นายนิธิต ภูริคุปต์ อดีต ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนยื่นคำร้องขอให้ศาลรับรื้อฟื้นคดี กระทั่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตรื้อฟื้นคดี และ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้ามารับผิดชอบศูนย์ลูกหนี้ฯ จึงได้ตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนนำขึ้นพิสูจน์ในชั้นศาล ซึ่งผลการตรวจสอบด้วยเครื่องจับเท็จพบว่า นายสุริยาและนายสับให้การเท็จ และบุคคลทั้งสองยังยอมรับว่ามีการว่าจ้างให้เบิกความเท็จ โดยหลังจากทราบเรื่อง พ.ต.อ.ดุษฎีได้ตัดออกจากบัญชีพยาน และได้แจ้งให้ตำรวจทราบว่ามีขบวนการว่าจ้างให้รับผิดแทนกัน 

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่กระทรวงยุติธรรมไม่ยุติการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่ารถของนางจอมทรัพย์ไม่ใช่รถที่เกิดอุบัติเหตุชนรถจักรยานเพราะตัวถังรถเป็นสีบรอนซ์ทอง ไม่ใช่สีเขียวที่ติดกับรถจักรยานที่ถูกชน ที่สำคัญการรื้อฟื้นคดีเป็นสิทธิที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว หากถอนเรื่องเท่ากับครูจอมทรัพย์เสียสิทธิในการพิสูจน์ทันที จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัยเกี่ยวกับรถยนต์ของนางจอมทรัพย์ ซึ่งสำนวนการสอบสวนของตำรวจระบุว่าสีเขียวมาจากแผ่นป้ายทะเบียนรถ


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะที่ผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถนางจอมทรัพย์ไม่เคยถูกชน ส่วนกรณีที่มีการระบุว่านางจอมทรัพย์เปลี่ยนป้ายก็เป็นการขอเปลี่ยนตั้งแต่ปี 2546 ก่อนเกิดอุบัติเหตุ 11 มี.ค.2548 ทำให้แผ่นป้ายทะเบียน บค 56 ของนางจอมทรัพย์ มีตัวเลขควบคุมการผลิตที่ 470082670 ซึ่งหมายเลขตรงกับสำเนาภาพถ่ายที่ตำรวจใช้ประกอบสำนวนคดีขับรถชนคนตาย 

นอกจากนี้ ชุดรื้อฟื้นคดียังพบด้วยว่ารถหมายเลขทะเบียน 56 สีเขียวมีอยู่คันเดียว คือบค 56 มุกดาหาร จดทะเบียนในชื่อนายสับ วาปี แต่มีการขายเปลี่ยนมือโดยไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ มีหลักฐานเพียงการทำประกันรถยนต์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับผลประโยชน์จากนายสับ เป็นบุคคลอื่น และในช่วงเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ขาดการต่อทะเบียนไป 9 เดือน หลังมีการตัดสินคดีนางจอมทรัพย์แล้วจึงนำรถคันดังกล่าวไปจดทะเบียนขอให้งานอีกครั้งพร้อมเสียค่าปรับจากการต่อทะเบียนล่าช้า 108 บาท ส่วนรถไม่สามารถนำมาตรวจได้เนื่องจากถูกอ้างว่าในไปขายเป็นเศษเหล็กจนไม่สามารถติดตามหาได้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร