ไทย-กัมพูชา จ่อหารือถกปัญหาพิสูจน์สัญชาติแรงงาน

ดินแดง 28 พ.ย.- อธิบดีแรงงานกัมพูชา-ไทย  ร่วมแก้ไขปัญหาการพิสูจน์สัญชาติล่าช้า จัดชุดโมบายลงพื้นที่อำนวยความสะดวก-ดูแลค่าใช้จ่ายของแรงงาน ป้องกันนายหน้าเรียกค่าหัวคิว พร้อมเตรียมประชุมร่วมอีกครั้งปลายปีนี้


นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับอธิบดีกรมแรงงานและฝึกอาชีพ กระทรวงแรงงาน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่า ฝ่ายไทยแจ้งว่ากลุ่มที่ผ่านการคัดกรองความสัมพันธ์นายจ้าง–ลูกจ้าง และได้รับหนังสือรับรองจากกระทรวงแรงงาน (ใบจับคู่) ขณะนี้มีจำนวน 210,187 คน และเตรียมขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติถึงวันที่ 31 มี.ค.2561 โดยจะมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่(Mobile Teams)ไปยังจังหวัดที่มีแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชาและนายจ้าง โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งศักยภาพในการพิสูจน์สัญชาติให้กับแรงงานกัมพูชาว่าสามารถดำเนินการได้เท่าใด หรือมีแผนในการพิสูจน์สัญชาติแบบอื่นหรือไม่ หากพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพและสนองต่อความต้องการได้สะดวก รวดเร็วและประหยัด ปัญหาต่างๆ ก็จะหมดสิ้นไป ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมีการเชื่อมโยงและทำงานใกล้ชิดกัน


ด้านนายเส็ง ศักดา อธิบดีกรมแรงงานและฝึกอาชีพ กระทรวงแรงงาน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา แจ้งว่าหน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Teams) ในการส่งมอบหนังสือเดินทาง (Passport :PP) เอกสารเดินทาง(Travel Document : TD) และบัตรแรงงานกัมพูชาในต่างแดน (Overseas Cambodia Worker Card : OCWC) ให้กับแรงงานกัมพูชา ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2559 ถึง 24 พ.ย.2560 ได้ส่งมอบไปแล้วจำนวน 110,534 คน โดยเปิดดำเนินการ 4 ศูนย์ ใน จ.ปทุมธานี ระยอง ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ศูนย์จังหวัดปทุมธานีได้ปิดให้บริการแล้ว  


สำหรับศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานกัมพูชาให้กับแรงงานกลุ่มบัตรสีชมพูและแรงงานใบจับคู่ 3 ศูนย์ ใน จ.ระยอง สงขลา และกรุงเทพมหานคร นั้น ได้ดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไปแล้ว จำนวน 37,702 คน โดยปัญหาที่พบ คือการตั้งสำนักงานนายหน้าและมีการเรียกค่าดำเนินการ 1,500 บาท ต่อคน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้กำชับไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการพิสูจน์สัญชาติเกินจากที่ประกาศไว้

ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าขณะนี้ได้ปรับปรุงขั้นตอนการออกหนังสือเดินทาง(Passport) โดยความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงาน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาจะมีการเพิ่มศูนย์เพื่อออกหนังสือเดินทาง (Passport) อีก 3 ศูนย์ ระยะเวลาในการออกหนังสือเดินทาง (Passport) 5 วันและทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยปลายเดือนธันวาคมศกนี้ โดยจะหารือในประเด็นการพิสูจน์สัญชาติแรงงานกัมพูชา และการปรับปรุงระบบการนำเข้าแรงงานตาม MOU .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่