คดีปั้นพยานขอรื้อฟื้นคดี “ครูจอมทรัพย์” สอบผู้เกี่ยวข้องแล้ว 6 เหลืออีก 2 ราย

นครพนม 27 พ.ย.-คดีปั้นพยานเพื่อขอรื้อฟื้นคดีของ “ครูจอมทรัพย์” จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 6 คน ส่วนอีก 2 คน ยังไม่ได้สอบปากคำ


ขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อหวังรื้อฟื้นคดีที่ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ จอมทรัพย์ ศรีบุญหอม ขับรถชนคนเสียชีวิตเมื่อปี 2548 มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 คน แต่จนถึงขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไป 6 คน เหลืออีก 2 คนที่ยังไม่มารายงานตัว โดยครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานเท็จในการพิจารณาคดีอาญาและอั้งยี่ซ่องโจร แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ โดยศาลไม่ให้ประกันตัวและถูกนำตัวไปฝากขัง


ส่วนอีกคน คือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือ “ครูอ๋อง” ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันแจ้งความเท็จ, ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จในคดีอาญา, ใช้ผู้อื่นเบิกความเท็จ และอั้งยี่ซ่องโจร หลังสารภาพว่าเป็นผู้ว่าจ้างนายสับ วาปี 400,000 บาท ให้รับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ขณะนี้ยังสอบปากคำเพิ่มเติม


ส่วนอีก 2 คนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคือ นายสับ วาปี และนางจัน วาปี ฐานแจ้งความเท็จ, เบิกความเท็จ และซ่องโจร แต่ศาลได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน

ส่วน 2 คนที่มีชื่อพัวพันทั้งนายบุญเทิง และนายเลิศ วาปี ญาติของนายสับ ได้เข้าพบตำรวจแล้ว แต่ไม่มีการแจ้งข้อหา ก่อนถูกกันไว้เป็นพยาน และปล่อยตัวไป

ขณะที่อีก 2 คน ประกอบด้วย นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยานปากสำคัญ ยังไม่เข้าพบตำรวจ และครบกำหนดออกหมายเรียกครั้งแรก ก่อนจะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันให้การเท็จ โดยนางทัศนีย์ ติดต่อเข้าพบวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.)

สำหรับข้อหา “เบิกความเท็จ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 ระบุว่า ผู้ใดเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีของศาล โทษคือจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และถ้าความผิดเกิดขึ้นในคดีอาญา ต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท

ส่วนข้อหา “อั้งยี่ซ่องโจร” มาตรา 210 ใจความสำคัญ คือ ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 5 คนกระทำความผิดที่มีโทษจำคุก 1 ปีขึ้นไปถือว่าผิดกฎหมายซ่องโจร โทษคือจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท แต่หากสมคบกันกระทำผิดที่มีความผิดตั้งแต่โทษจำคุก 10 ปีถึงประหาร ต้องถูกจำคุก 2-10 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท

ส่วนข้อหา “แจ้งความเท็จ” ดำเนินคดีได้ 3 มาตรา ทั้งมาตรา 137 แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน, มาตรา 172 แจ้งความเท็จในคดีอาญากับอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน รวมถึงมาตรา 173 กรณีถ้าผู้ใดรู้ว่าไม่ได้มีการทำผิดเกิดขึ้นแต่ไปแจ้งว่ามีการทำผิด ความผิดตามกฎหมายกลุ่มนี้มีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับสูงสุดคือ 60,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง