คลังส่งผู้ตรวจลงพื้นที่เร่งรัดเบิกจ่าย

กระทรวงคลัง 27 พ.ย. – คลังส่งผู้ตรวจลงพื้นที่เร่งรัดการเบิกจ่าย พร้อมยกร่างกฎหมายภาษีสินค้าออนไลน์  ยอมรับเป็นปัญหาเกิดขึ้นหลายประเทศจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ จึงต้องร่วมมือระดับเวทีโลก 


นายยุทธนา หยิมการุญ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังประชุมจัดทำแผนการตรวจราชการกระทรวงการคลัง ว่า เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2561 เป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 96 ของงบประมาณรายจ่ายรวม 2.9 ล้านล้านบาท งบลงทุนเป้าหมายเบิกจ่ายร้อยละ 88 งบประจำวงเงิน 659,924 ล้านบาท ต้องเบิกจ่ายภายในไตรมาส  1 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของวงเงินจัดสรร ด้านการฝึกอบรม  ส่วนงบลงทุน 2.15 ล้านล้านบาท รายจ่ายลงทุนปีเดียวต้องก่อหนี้ผูกพันให้เสร็จไตรมาส 1  การจัดหาจากต่างประเทศหรือลงทุนลักษณะพิเศษต้องให้เสร็จไตรมาส 2 

นอกจากนี้ ยังต้องประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  (อปท.) ติดตามการเบิกจ่ายเงินลงทุนขนาดเล็ก หลังจากรัฐบาลมุ่งเน้นให้ อปท.เบิกจ่ายการลงทุนในภูมิภาค จึงตั้งทีมส่วนกลาง 63 ทีม และส่วนภูมิภาคระดับจังหวัด 76 จังหวัด เพื่อรายงานผลการเบิกจ่าย นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะธุรกิจบันเทิงกลางคืนในจังหวัดเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต นับว่าเบื้องต้นได้ภาษีประเภทต่าง ๆ จากที่เคยรั่วไหลกลับเข้ามาได้สูงขึ้น เมื่อดำเนินตามแผนคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงคลังคาดว่าเป้าหมายทั้งรายได้และรายจ่ายจะทำได้ตามเป้าหมาย ตั้งแต่เริ่มประมาณปี 2561 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560  รายจ่ายประจำเบิกจ่ายไปแล้ว 455,369 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.99 รายจ่ายลงทุน เบิกจ่าย 38,961 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.27 จากเป้าหมายร้อยละ 9.27 


นายลวรณ แสงสนิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงคลัง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแผนปฏิรูปประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากร หลังจากปรับโครงสร้างสรรพสามิตไปแล้ว โดยเฉพาะปัญหาจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ยอมรับว่าการค้าขายผ่านอี-คอมเมิร์ซมีธุรกรรมสูงมากและการค้าขายทุกครั้งต้องเสียภาษี แต่ปัจจุบันยังเสียภาษีน้อยมากต้องศึกษาอีกหลายปัจจัยรอบด้าน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งจดทะเบียนในต่างประเทศ การปิดบัญชีซื้อขายเพื่อเก็บภาษีจึงพิจารณายาก เพราะหาต้นตอลำบาก 

นายลวรณ  กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวต้องร่วมมือกันระดับเวทีโลก กรมสรรพากรและกระทรวงคลังไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวและได้ศึกษาแนวทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งศึกษาประสบการณ์และบทเรียนในต่างประเทศ และต้องรอผลการพิจารณาของอัยการ เพื่อออกฎหมายจัดเก็บภาษีสินค้าออนไลน์ และประมวลรัษฎากรฉบับปัจจุบันยังไม่รองรับการค้าขายจากอี-คอมเมิร์ซได้อย่างครอบคลุม ส่วนจะปล่อยให้รายย่อยเข้มแข็งแล้วค่อยจัดเก็บ หรือมุ่งจัดเก็บจากรายใหญ่ ทุกอย่างยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องศึกษาอย่างรอบคอบ เพื่อเสนอกระทรวงคลังพิจารณา ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดว่าเมื่อออกกฎหมายต้องเปิดเวทีรับฟังความเห็น เมื่อเป็นเรื่องจัดเก็บภาษีชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะไม่เห็นด้วย จึงทำให้ออกกฎหมายลำบากมากขึ้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย