นายกฯ ลงพื้นที่ปัตตานี ติดตามงานด้านการพัฒนา-ความมั่นคง

สงขลา 27 พ.ย.-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อติดตามงานด้านการพัฒนาและความมั่นคง และเปิดตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.หนองจิก


บรรยากาศที่ตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้คึกคักตั้งแต่เช้า แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวจังหวัดปัตตานีจำนวนมากเดินทางมาจากทุกอำเภอ เพื่อรอรับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานในการเปิดตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้

บรรยากาศที่ จ.ปัตตานี เช้านี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ต้องเปลี่ยนลงเครื่องบินที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา จากเดิมจะลงเครื่องบินที่สนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยนายกรัฐมนตรีจะใช้เวลาลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่ จ.ปัตตานี ในการติดตามความก้าวหน้าการทำงานของสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และงานมั่นคงดูแลเรื่องความปลอดภัย


จุดแรกที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางคือ ที่ตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ อ.หนองจิก เพื่อเป็นประธานในการเปิดตลาดกลาง ซึ่งที่นี่จะเป็นจุดซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าการเกษตรขนาดใหญ่ จะเปิดทุกวันศุกร์ วันนี้เกษตรกรนำผลผลิตทั้งแพะเนื้อ แพะนม โค และไก่เบตง มาจำหน่าย รวมทั้งภาคเอกชนและวิสาหกิจชุมชน จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปเกี่ยวกับปศุสัตว์ เช่น หญ้าเนเปียแปรรูป อาหาร TMR สำหรับแพะและโค มาจัดแสดงให้กับนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมด้วย และนายกรัฐมนตรีจะพบปะประชาชนชาว จ.ปัตตานี ที่เดินทางมาให้การต้อนรับจากทุกอำเภอจำนวนกว่า 3,000 คน

ส่วนบรรยากาศที่นี่ตลอดทั้งวันต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ทำให้นายกรัฐมนตรีจะต้องลงเครื่องบินที่ จ.สงขลา ก่อนนั่งรถต่อมายังปัตตานี แต่ฝนก็ไม่เป็นอุปสรรค ขณะที่การรักษาความปลอดภัยได้จัดวางกำลังดูแลอย่างเข้มงวดตลอดเส้นทางที่นายกรัฐมนตรีเดินทางผ่าน

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่จุดแรกนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่บริษัทปาล์มพัฒนา ดูการแปรรูปสินค้าเกษตร และจะไปประชุมติดตามงานความมั่นคง วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ จ.สงขลา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี