จนท.ร่วมกตัญญูรีบบึ่งรถไปช่วยเหตุไฟไหม้บ้าน จ.อ่างทอง แทบช็อกเป็นบ้านตัวเอง

ภูมิภาค 27 พ.ย. – เกิดเหตุไฟไหม้บ้านบริเวณชุมชนหลังตู้สายตรวจตำบลหัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาย จ.อ่างทอง โดยเพลิงลุกไหม้บ้านเลขที่ 6/9 หมู่ที่ 6 ต.หัวตะพาน เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น และกำลังลุกลามไปยังบ้านเรือนที่อยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบบ้านเสียหายทั้งหลัง 


บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนายสำเริง ปั้นเหน่งเพชร อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนเกิดเหตุนอนดูโทรทัศน์อยู่บนบ้าน ก่อนขับรถออกไปเปลี่ยนยางที่อู่เพื่อน ซึ่งอยู่ไม่ไกล ขณะที่กำลังเปลี่ยนยางอยู่ได้ยินเสียงวิทยุแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริเวณชุมชนแถวบ้านตนเอง จึงรีบขับรถกลับมาเพื่อช่วยดับไฟ แต่แทบช็อก เพราะบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นบ้านของตนเอง ตำรวจคาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร 


ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรนางรอง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ห้องเช่าทางเข้าสถานีตำรวจภูธรนางรอง ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวไว้ให้คนเช่ามีทั้งหมด 5 ห้อง อยู่ภายในหมู่บ้านมิตรอารี ถนนมิตรอารี ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ห้องที่เกิดเหตุอยู่ห้องแรก โดยมีนางวิภาวรรณ ไตรทอง อายุ 35 ปี มาเช่าพักกับสามีและลูก ได้เพียง 2 เดือน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่หลังเพลิงสงบทั้งบ้านและทรัพย์สินบางส่วนถูกเผาเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร

เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ ไฟไหม้บ้านสองชั้นใน ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี อยู่ติดกับศูนย์สาธิตการตลาดบ้านเบง ชาวบ้านช่วยกันนำน้ำใส่กะละมังดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ลุกไหม้บ้านสองชั้นจนวอด และลามไปบ้านหลังข้างกัน ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง รถดับเพลิงจึงมาถึงที่เกิดเหตุ แต่ไฟได้ไหม้บ้านไปทั้งหลังแล้ว ต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีก 


นางประชุม บรรดาดี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะที่ออกไปเกี่ยวข้าวที่ทุ่งนา ชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าบ้านไฟไหม้ ตนเองถึงกลับเข่าทรุด รีบพากันมาดู พบว่าไฟกำลังโหมลุกไหม้บริเวณชั้นสองอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านใกล้เคียงพากันออกมาช่วยกันดับ แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว 

และเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 26 พ.ย.นี้ ร.ต.อ.สุชาติ สินธุ์สาย ร้อยเวร สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง รับแจ้งไฟลุกไหม้รถยนต์กระบะที่ถนนบ้านสวน-บ้านหารโพธิ์ หมู่ที่ 3 ต.หารโพธิ์ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จึงเดินทางไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมรถอุปกรณ์ดังเพลิงของหน่วยกู้ภัยพัทลุง ในที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์กระบะโตโยต้าแบบตอนครึ่ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ไม่สามารถดับไฟได้ ทำให้ไฟลุกไหม้รถวอดไปทั้งคัน

นายเหลือ สงค์ทับ อายุ 58 ปี ชาวพัทลุง เจ้าของรถ เล่าว่า ขับรถจากบ้านพักที่เทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด พร้อมเพื่อนอีก 2 คน เพื่อไปร่วมงานศพญาติเมื่อเดินทางถึงที่เกิดเหตุ ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก และเกิดไฟลุกไหม้ที่ห้องเครื่อง จึงหยุดรถกลางถนนวิ่งหนีเอาตัวรอด ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากระบบไฟฟ้าช็อตภายในห้องเครื่อง ทำให้เกิดไฟประกายไฟและเกิดไฟไหม้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

KNLA เข้าโจมตีทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง

สาวสั่งทิชชูเปียก เจอ “ยาบ้า” ซุกในลำโพง 40,000 เม็ด

สาวสุดงง สั่งทิชชูเปียกในแอปดัง เอะใจกล่องหนักแปลกๆ เปิดออกมาแทบช็อกเจอ “ยาบ้า” และ “ไอซ์” โร่แจ้งผู้ใหญ่บ้าน-ตำรวจ มาตรวจสอบ