กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – ปตท.สผ.ทบทวนลงทุน 5 แหล่งในต่างประเทศ พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรหลัง DISRUOTIVE TECHNOLOGY ส่งผลพลังงานทดแทนมีบทบาทมากขึ้น คาดส่งผล 3 ปีนี้กำลังผลิตคงที่ 3 แสนบาร์เรล/วัน ประกาศพร้อมประมูล “เอราวัณ-บงกช”
นายพงศธร ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า บริษัทกำลังทบทวนการลงทุน 5 แหล่งหลัก เนื่องจากหลายอย่างเหนือการควบคุม ได้แก่ แหล่งในประเทศโมซัมบิก แหล่งOIL SAND ในแคนาดา แหล่งM3 ในเมียนมาร์ แหล่งฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ในอัลจีเรีย และแหล่งแคชเมเปิลในออสเตรเลีย โดยต้องดูความเหมาะสมทุกด้าน ทั้งด้านราคาน้ำมัน ต้นทุน หลักเกณฑ์การลงทุน และอื่น ๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการลงทุนต่อหรือการขายหุ้นในอนาคต โดยจะมีความชัดเจนไตรมาส 1/2561
ทั้งนี้ ปตท.สผ. คาดว่าปีหน้าราคาน้ำมันจะใกล้เคียงกับระดับราคาปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่เนื่องจากธุรกิจพลังงานของโลกมีความเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง หรือ DISRUPTIVE ส่งผลให้พลังงานทดแทนมีบทบาทมากขึ้นกระทบต่อปิโตรเลียม ทางบริษัทจึงพร้อมรับปรับตัวทั้งปรับโครงสร้างองค์กร มีการตั้งหน่วยงานเพื่อดูถึงการลงทุนใหม่ นอกเหนือการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
ส่วนการบริหาร นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะดูงานด้านโครงการใหม่ รวมถึงการลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ ขณะที่นายพงศธร จะดูงานด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมครบวงจร ซึ่งในโครงการใหม่ ๆ ขณะนี้มีการพิจารณาหลายโครงการ เนื่องจากหลายแหล่งในโลกนี้ เช่น ตะวันออกกลาง อินโดนีเซีย หมดอายุสัมปทานเช่นเดียวกับแหล่งบงกช-เอราวัณของไทย อย่างไรก็ตาม การลงทุนของบริษัทจะเน้นมาที่อาเซียนเป็นสำคัญ
ปตท.สผ.ยังประเมินว่าใน 3 ปีนับจากนี้ (ปี 2560-2562) ปริมาณขายปิโตรเลียมจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน โดยการผลิตจากแหล่งในอ่าวไทยอาจลดน้อยลงและบริษัทจะเพิ่มกำลังผลิตจากแหล่งบนบกมากขึ้น เช่น แหล่งสิริกิติ์เพิ่มกิจกรรม 3 เท่าตัว ขุดเจาะประมาณ 150-180 หลุม/ปี จากปัจจุบัน 60 หลุม/ปี คาดว่ากำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 25,000 บาร์เรล/วัน
“ยอดขายขึ้นกับความต้องการใช้การเรียกก๊าซฯ จากภาครัฐที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างการใช้ก๊าซแอลเอ็นจีที่มีการนำเข้าที่ต้องดูถึงราคาก๊าซเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้กระทบค่าไฟฟ่าและการดำเนินนโยบายการคงปริมาณก๊าซอ่าวไทยให้ใช้ได้นานที่สุด เพื่อผ่านโรงแยกก๊าซฯ นำไปผลิตปิโตรเคมีสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด” นายพงศธร กล่าว
นายพงศธร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พร้อมแล้วสำหรับการประมูลโครงการ “เอราวัณ-บงกช” รอเพียงรัฐบาลประกาศเงื่อนไขการประมูล หรือทีโออาร์ โดยเป้าหมายจะร่วมกับพันธมิตรเดิมทั้ง 2 แหล่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเอราวัณขณะนี้กำลังหารือกับเชฟรอนว่าทาง ปตท.สผ.จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นได้หรือไม่ จากเดิมร้อยละ 5 และจะสร้างความมั่นคงทางพลังงานแก่ประเทศอย่างไร และการคงกำลังในแหล่งนี้อย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันมีกำลังผลิต 1,240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันอย่างไร ส่วนแหล่งบงกชมีกำลังผลิตขณะนี้ประมาณ 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทาง ปตท.สผ.รอดูว่าเชลล์จะมีท่าทีร่วมดำเนินการต่อหรือจะขายหุ้นที่ถือร้อยละ 22.22 หรือไม่ โดยบริษัทก็สนใจจะเข้าซื้อหากมีความชัดเจน
นายพงศธร กล่าวด้วยว่า การฟ้องร้องจากรัฐบาลอินโดนีเซียกรณีถูกกล่าวว่าปัญหาน้ำมันรั่วแหล่งมอนทาราในออสเตรเลีย กระทบต่อน่านน้ำอินโดนีเซีย ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีการไต่สวนรอบ 2 ภายใน 2 สัปดาห์นี้. -สำนักข่าวไทย