กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – กรมชลประทานลดระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากน้ำเหนือมีปริมาณลดลง ภาวะน้ำล้นตลิ่งในที่ลุ่มต่ำจังหวัดต่าง ๆ ระดับน้ำเริ่มลดระดับลง
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ได้คลี่คลายลง ปริมาณน้ำเหนือในลุ่มน้ำต่าง ๆ ลดลง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงสั่งการให้กรมชลประทานลดปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเป็นวันแรกจาก 2,297 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือเพียง 2,218 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นผลให้น้ำที่ล้นตลิ่งในอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ลดลงทันที ส่วนที่อำเภอเมืองอินทร์บุรี และพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอป่าโมกข์ จังหวัดอ่างทอง อำเภอผักไห่ เสนา และบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเริ่มลดลงในวันนี้
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ปริมาณน้ำไหลลงอ่างแต่ละวันลดลงเช่นกัน กรมชลประทานจึงลดปริมาณการระบายท้ายเขื่อนจากวันละ 60 ลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 56 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะส่งผลให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิมระบาย 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะปรับลดลงประมาณ 80-100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำที่อำเภอท่าเรือจะลดลง 30 เซนติเมตรในวันพรุ่งนี้
สำหรับจุดที่แม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสักมาบรรจบกันที่อำเภอบางไทร ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังไม่ให้น้ำหลากเข้าจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำลงแล้วเช่นกัน กรมชลประทานจึงให้ความมั่นใจได้ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มปริมาณมากในพื้นที่ใด สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ต่าง ๆ จะดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากกรมชลประทานจะปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนต่าง ๆ ลงอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย