คนไทยจะมีรายได้ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐในอีก 20 ปีข้างหน้า

กรุงเทพฯ13 พ.ย. – รัฐบาลตั้งเป้ายกระดับรายได้คนไทยจาก 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นมากกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 20 ปีข้างหน้า พร้อมขยับอันดับความสามารถการแข่งขันติด 1 ใน 20 อันดับแรก เชื่อจะเห็นก่อน 20 ปีได้


นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน กล่าวว่า การจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันกำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี หรือปี 2580 ไว้ 4 เป้าหมาย คือ ไทยจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วมีรายได้มากกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี จากปัจุบัน 6,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งเดือนกรกฎาคมปีนี้ ธนาคารโลกกำหนดว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ ประเทศที่มีรายได้มากกว่า 12,235 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี ดังนั้น การที่ไทยจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วระดับรายได้จะต้องเพิ่มขึ้น จึงตั้งเป้ารายได้คนไทยจะต้องเพิ่มขึ้นมากกว่า 15,000 ดอลลาร์ต่อคนต่อปี หากดำเนินการได้ดีก็จะถึงเป้าหมายก่อน 20 ปี 

เป้าหมายที่ 2 ไทยจะต้องมีอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะต้องขยายตัวไม่ต่ำกวาร้อยละ 5 ในช่วง 20 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันจีดีพี ขยายตัวร้อยละ 3.8-4.0 แม้บางช่วงจีดีพีต่ำกว่านี้ไปบ้าง แต่ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ซึ่งปีนี้คาดว่าจีดีพีจะอยู่ในระดับร้อยละ 3.8-4.0 และตามแผนจะผลักดันให้จีดีพีประเทศเติบโตแต่ละปีร้อยละ 5 เพื่อจะได้เป็นกลไกสำคัญในการเป็นประเทศมีรายได้สูง


เป้าหมายที่ 3 ผลิตภาพการผลิตรวม หรือ TFP กำหนดเป้าหมายว่าจะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก แต่จำเป็นเพราะหากขาดเป้าหมายนี้จีดีพีประเทศจะขยายตัวร้อยละ 5 จะท้าทายมาก และแม้มองในอนาคตที่ประเทศไทยจะมีประชากรวัยแรงงานลดน้อยลง เพราะก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น แต่ด้วยการมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเติบโตมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยส่งเสริมให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวตามคาด คือ จีดีพีขยายตัวแต่ละปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพแรงงาน พร้อมเร่งการลงทุนให้เติบโตขึ้น เรื่องของทุนประกอบกันไปด้วย 

สำหรับเป้าหมายที่ 4 คือ ไทยต้องได้รับการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ IMD จะต้องอยู่ในอันดับ 1 ใน 20 เพราะการจะอยู่อันดับ 1 ใน 10 เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะประเทศที่ได้รับการจัดอันดับดังกล่าวปัจจุบันเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่ไทยได้รับการจัดอันดับไว้ที่ 25-30 โดยไทยมีจุดอ่อนด้านประสิทธิภาพการผลิต โครงสร้างพื้นฐานทั่วไป โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และด้านการศึกษา ปี 2560 ไทยอยู่ในอันดับที่ 27 จาก 63 ประเทศ ปรับตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว 1 อันดับและมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2554

นายสถิตย์ กล่าวว่า หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะวางยุทธศาสตร์ด้านเกษตร ด้านอุตสาหกรรม บริการและโครงสร้างพื้นฐานกายภาพ ดิจิทัล การเงิน และศักยภาพมนุษย์ เป็นต้น จากนั้นนำเสนอร่างยุทธศาสตร์ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาภายใน 120 วัน ซึ่งครบกำหนดวันที่ 24 มกราคม 2561 แต่เชื่อว่าจะจัดทำร่างยุทธศาสตร์เสร็จก่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า