กยท.ชี้แจงปัญหาราคายางยืนยันราคาเป็นไปตามกลไกตลาด

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.-การยางแห่งประเทศไทย ชี้แจงปัญหาราคายางตก ยืนยัน สถานการณ์ยางพารา
ในช่วงเดือนกรกฎาคม
ตุลาคม ของทุกปีเป็นช่วงที่ปริมาณยางออกสู่ตลาดสูงทำให้ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลง


นายธีธัช  สุขสะอาด  ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.  ชี้แจงประเด็นกรณีนายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน
ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางระดับประเทศ กยท. ซึ่งจะเดินทางไปยังกระทรวงเกษตรฯ
ในวันที่ 13 พ.ย.2560  เรียกร้องประเด็น
1.การดำเนินนโยบายผิดพลาดในการจัดตั้ง บริษัท ร่วมทุนยางพาราไทย จำกัด
ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาวิกฤติราคายางอยู่ขณะนี้ และยื่นข้อเรียกร้องผ่านไปถึงรัฐบาล
3 ข้อ คือ ให้ กยท. ถอนหุ้นจาก บริษัท ร่วมทุน
และจัดตั้งบริษัทใหม่โดยถือหุ้นร่วมกับเกษตรกร     ให้ยึดระเบียบการบริหารราคายางพารา ตามตลาดกลางอย่างเคร่งครัด
 และ ให้รัฐบาลผลักดันนโยบายส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐอย่างจริงจัง
เพื่อให้เกิดการใช้ยางในประเทศเพิ่มมากขึ้น

 โดย กยท.ขอชี้แจข้อเท็จจริง  คือ สถานการณ์ยางพารา ในช่วงเดือนกรกฎาคม ตุลาคม ของทุกปีเป็นช่วงที่ปริมาณยางออกสู่ตลาดสูงทำให้ราคายางในสภาพปกติมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
สำหรับปี 2560 นี้ ภาพรวมราคายางเป็นไปตามกลไกตลาด โดยราคาทั้งในและต่างประเทศ
ปรับตัวในทิศทางเดียวกัน แต่ปัญหาราคายางขณะนี้ สาเหตุที่แท้จริงมาจาก 1.ปริมาณผลผลิตและความต้องการใช้ยางไม่สมดุลกัน
ส่งผลต่อราคาขาย โดยประเทศผู้ผลิตหลักทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย
และมาเลเซีย ราคาปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
แต่ราคายางในประเทศไทยยังคงสูงกว่าประเทศอื่น นอกจากนี้
ยังมีประเทศผู้ผลิตยางรายใหม่ มีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นจากปี 2559 สูงมาก เช่น กัมพูชา
เพิ่มขึ้น 33.1% อินเดีย เพิ่มขึ้น 21.0% และ เวียดนาม เพิ่มขึ้น 11.3%
ทำให้ผลผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น  2.
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศผู้ใช้ยางรายใหญ่ของโลก ทั้งจีน สหรัฐฯ
และญี่ปุ่น ทำให้เกิดการชะลอซื้อของประเทศผู้ใช้ยางเหล่านี้ รวมถึง ความตึงเครียดทางการเมืองหลายประเทศ
ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อและราคาในตลาดล่วงหน้ามีความผันผวนอย่างรุนแรง
ส่งผลกระทบต่อราคายางในตลาดซื้อขายจริงในประเทศที่ปรับตัวลดลงตามไปด้วย 3.
การเก็งกำไรของนักลงทุนทั้งตลาดซื้อขายจริงในประเทศและตลาดล่วงหน้า
กระทบต่อการซื้อขายทำให้ราคาในตลาดนั้นๆ ผันผวนลดลงเช่นกัน
ซึ่งการดำเนินงานนโยบายของบริษัทร่วมทุน
ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาราคายางที่กำลังเผชิญอยู่


โดยที่ประชุมร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อกำหนดมาตรการขับเคลื่อนการสร้างเสถียรภาพราคายาง เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.60  โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมี กยท.กับ
บริษัทยางพารารายใหญ่ 5 บริษัท เข้าร่วม ได้มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างภาครัฐ ผู้ผลิต
และผู้ส่งออก ให้จัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคายาง
เพื่อกระตุ้นแรงซื้อตลาดภายในประเทศ และชี้นำราคา
ด้วยการซื้อขายยางผ่านตลาดซื้อขายจริง (ตลาดกลางยางพารา กยท.)
และการซื้อขายสัญญาผ่านตลาดล่วงหน้า หรือ ตลาดทีเฟลก โดยไม่เน้นการแสวงหากำไร
เพื่อให้ประโยชน์ของกองทุนฯ ตกอยู่ที่เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น

ที่ผ่านมา ผลดำเนินงานบริษัทร่วมทุนฯ ทำให้ราคายางปรับตัวขึ้นในระดับหนึ่งท่ามกลางราคายางที่มีทิศทางจะปรับลดลง
บริษัทร่วมทุนฯ จะเข้าไปประมูลยางในราคาที่ชี้นำ
ซึ่งเกษตรกรสามารถนำราคาไปอ้างอิงในการต่อรองซื้อขายกับผู้ซื้อในแหล่งอื่นๆ ได้
เช่น ผลของการประมูลในวันที่ 9
10 พ.ย. 60 ราคายางมีทิศทางจะปรับลดลง
บริษัทร่วมทุนฯ ได้เข้าประมูลในราคา 47.10 บาท ซึ่งหากบริษัทร่วมทุนฯ
ไม่เข้าประมูล ราคายางที่พ่อค้าเสนอจะอยู่ที่ 46.39
46.49
บาทเท่านั้น และในช่วงวันที่ 30 ตุลาคม
1 พ.ย.
บริษัทร่วมทุนฯ ชะลอการประมูลยางในตลาดตามที่แกนนำบางกลุ่มเรียกร้อง
ส่งผลให้ราคายางปรับลง 5.61 บาท

 ดังนั้น ที่ผ่านมา
บริษัทร่วมทุนฯ ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ มาโดยตลอด
นอกจากนี้ ข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งบริษัทโดยถือหุ้นร่วมกับภาคสถาบันเกษตรกร ในส่วน
กยท. จะต้องดำเนินการตามกระบวนการที่กระทรวงการคลังกำหนด
และสำหรับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางสามารถเข้ามาร่วมหุ้นได้
แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของแต่ละสถาบันเกษตรกร


โดย กยท.ได้ปรับระเบียบตลาดกลางยางพารา กยท.
พร้อมทั้งประกาศให้ผู้ซื้อและผู้ขายเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึง
กรณีบริษัท ร่วมทุนฯ ได้มีการรับทราบระเบียบ พร้อมทั้งดำเนินการแถลงข่าวและแก้ปัญหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพื่อปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเช่นกัน

 โครงการส่งเสริมใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ กยท.
ได้ประสานกับทุกหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560
เป็นปีแรกที่มีการดำเนินโครงการตามนโยบาย มีหน่วยงานรัฐนำยางไปใช้ในรูปแบบน้ำยางข้น
จำนวน 10
,213.49 ตัน
และยางแห้ง จำนวน 1
,453.48 ตัน งบประมาณทั้งสิ้น 15,074,604,881.57 บาท  ปี 2561
แต่ละหน่วยงานอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนงานและระเบียบการจัดหาของตนเอง
ซึ่งภาครัฐจะใช้น้ำยางข้น จำนวน 9
,916.832 ตัน ยางแห้ง จำนวน
1
,132.3895 ตัน งบประมาณรวม 11,583,115,494.570 บาท

 ทั้งนี้
ภาครัฐจะเป็นหน่วยงานนำร่องใช้ยางในประเทศ ควบคู่กับการวิจัยและพัฒนา
เพื่อให้การนำยางไปใช้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด
โดยเฉพาะการลดต้นทุนการผลิตในความคุ้มค่าต่อปริมาณยางและงบประมาณที่ใช้ อย่างไรก็ตาม
ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเอกชน สถาบันเกษตรกร รวมถึงภาคประชาชน
ต้องร่วมมือผลักดันและใช้ยางในประเทศร่วมกัน ทั้งนี้
บางโครงการรัฐได้ให้การสนับสนุนร่วมด้วย เช่น
โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยางผลิตภัณฑ์ยาง
วงเงิน 15
,000 ล้านบาท ทำให้มีปริมาณการใช้ยางในประเทศเพิ่มขึ้น 60,000 ตัน/ปี 
สร้างมูลค่าจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง กว่า 7
,600
ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ
ที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
ยืนยันที่ผ่านมาดำเนินงานด้านบริหารจัดการเป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
นโยบายและเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลง
ทำให้วิธีการทำงานต้องปรับให้เหมาะสม และอาจแตกต่างจากที่เคยปฏิบัติกันมา แต่
กยท.ยึดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นหลัก ทั้งเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
ผู้ประกอบกิจการยาง และผู้เกี่ยวข้องในวงการยางพารา
หวังให้ทั้งระบบเกิดการพัฒนาอย่างมั่นคง และยั่งยืน

ขณะที่นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล ในฐานะรองโฆษกการยางแห่งประเทศไทย
เผยว่า สถานการณ์ยางพารา ในช่วงเดือนกรกฎาคม
ตุลาคม
ของทุกปีเป็นช่วงที่ปริมาณยางออกสู่ตลาดสูง
ทำให้ราคายางในสภาพปกติมีแนวโน้มปรับตัวลดลง สำหรับปีนี้
ภาพรวมราคายางเป็นไปตามกลไกตลาด โดยราคาทั้งในและต่างประเทศ
ปรับตัวในทิศทางเดียวกัน แต่ปัญหาราคายางขณะนี้ สาเหตุที่แท้จริงมาจาก คือ  ปริมาณผลผลิตและความต้องการใช้ยางไม่สมดุลกัน
ส่งผลต่อราคาขาย โดยประเทศผู้ผลิตหลักทั้ง
3 ประเทศ ได้แก่
ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ราคาปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน แต่ราคายางในประเทศไทยยังคงสูงกว่าประเทศอื่น
นอกจากนี้ ยังมีประเทศผู้ผลิตยางรายใหม่ มีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปี
2559 สูงมาก เช่น กัมพูชา เพิ่มขึ้น 33.1% อินเดีย
เพิ่มขึ้น
21.0% และ เวียดนาม เพิ่มขึ้น 11.3% ทำให้ผลผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น   ปัจจัยด้านเศรษฐกิจชะลอตัว
โดยเฉพาะประเทศผู้ใช้ยางรายใหญ่ของโลก ทั้งจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น
ทำให้เกิดการชะลอซื้อของประเทศผู้ใช้ยางเหล่านี้ รวมถึง
ความตึงเครียดทางการเมืองหลายประเทศ
ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อและราคาในตลาดล่วงหน้ามีความผันผวนอย่างรุนแรง
ส่งผลกระทบต่อราคายางของตลาดซื้อขายจริงในประเทศที่ปรับตัวลดลงตามไปด้วย   การเก็งกำไรของนักลงทุนทั้งตลาดซื้อขายจริงในประเทศและตลาดล่วงหน้า
กระทบต่อการซื้อขายทำให้ราคาในตลาดนั้นๆ มีความผันผวนลดลงเช่นกัน
.-สำนักข่าวไทย

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย