“น้องทาโร่” ถูกรุ่นพี่จุดไฟเผา ล่าสุดอาการพ้นวิกฤต

ลพบุรี 10 พ.ย.-“น้องทาโร่” ถูกรุ่นพี่รุมจับแล้วใช้แอลกอฮอล์ราดตัวจุดไฟเผา ล่าสุดอาการพ้นวิกฤต แต่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเกรงแผลจะติดเชื้อ


เมื่อช่วงเวลา 14.30 น. ณ ห้องเอนกประสงค์โรงเรียนซอย 7 สาย 4 ซ้าย สำนักงานพื้นที่การศึกษาลพบุรีเขต1 ผอ.โรงเรียนซอย7 สาย4 ซ้าย นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ พนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ผู้ปกครองนักเรียนที่ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “น้องทาโร่” ด้วยการรุมจับแล้วใช้แอลกอฮอล์ราดตัวก่อนจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่วมกันหารือเพื่อหาทางออกสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในการหารือนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย จะมีเพียงแม่ของน้องทาโร่ และตัวแทนของผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุเพียงไม่กี่คน โดยมีชาวบ้านกว่า 50 คนได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวแม่ของน้องทาโร่ออกจากห้องประชุม ด้วยท่าทีเคร่งเครียดก่อนขึ้นรถไป โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ที่ยังคงร่วมประชุมอยู่ต่อรวมถึงชาวบ้านที่ยังคงปักหลักรอผลสรุปของเหตุการณ์ดังกล่าว จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลา 16.30 น.ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป 


สำหรับอาการของน้องทาโร่ขณะนี้พ้นวิกฤต แต่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เกรงแผลจะติดเชื้อ รวมถึงจะต้องล้างแผล ทำความสะอาดทุกวัน จนกว่าเนื้อเยื่อจะเริ่มขึ้นมาทดแทน ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะ ซึ่งน้องทาโร่วันนี้สามารถถามตอบกับแพทย์พยาบาลได้ โดยมีย่าคอยดูแลด้วยความเป็นห่วง จากการสอบถามย่าของน้องทาโร่ที่เฝ้าดูอาการของน้องไม่ห่างเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ทราบว่ามีผู้ที่จะต้องการให้ยุติเรื่องนี้โดยการมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง และให้ค่ารักษาพยาบาลวันละ 500 บาท ซึ่งทางย่า-แม่ รวมถึงครอบครัวของน้องทาโร่แสดงความไม่พอใจที่มีผู้เสนอเรื่องเงินมาเพื่อให้พ้นผิด ซึ่งตนเองไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการให้ดูแลรักษาหลานของตนเองจนกว่าจะหายเป็นปกติ ในส่วนของคดีก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการไปตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่