ลูกค้าสาวปาขนมจีนใส่คนขาย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

เชียงใหม่ 10 พ.ย.-เข้ามอบตัวแล้ว! ลูกค้าสาวเลือดร้อน ปาน้ำขนมจีนร้อนๆ ใส่หน้าอกคนขายเป็นแผลพุพอง ด้านผู้เสียหายไม่ติดใจแต่ขอให้รับผิดชอบค่ารักษา-ชดเชยรายได้


นาง คำ ลุงต๊ะ อายุ 26 ปี แม่ค้าขายขนมจีนพร้อมเจ้าของร้านย่านถนนเจริญสุข ชุมชนสันติธรรม ตัวเมืองเชียงใหม่ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจช้างเผือกเชียงใหม่ กรณีถูกลูกค้าหญิงสาวเลือดร้อนที่มาซื้อขนมจีนไม่พอใจที่แม่ค้าทำช้าและใส่น้ำขนมจีนถุงเล็ก จนโมโหปาน้ำขนมจีนร้อนๆ ใส่หน้าอกจนแม่ค้าได้รับบาดเจ็บ ถูกน้ำร้อนลวกตั้งแต่ไหล่ซ้ายจนถึงหน้าอก ต้องหยุดงาน 6 วัน พร้อมทั้งให้ทางผู้เสียหายชี้ภาพถ่ายของคู่กรณีเพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดี ล่าสุดพนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก นางสาวนฤมล อายุ 22 ปี หญิงสาว เลือดร้อน เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ขณะที่ผู้เสียหายไม่ได้ติดใจ เพียงแต่ขอให้รับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ในการทำงาน ช่วงที่ยังไม่สามารถทำงานได้ ส่วนคดีขอให้เป็นเรื่องของตำรวจ


ขณะที่ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ นางคำ ลุงต๊ะ เหยื่อที่ถูกน้ำขนมจีนลวก โดยจะช่วยเหลือเงินค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายจ่ายเงินค่ารักษาไปแล้ว 14,000 บาท รวมทั้งจ่ายเงินชดเชยที่ไม่ได้ทำงาน ตามความเป็นจริง จ่ายตามค่าแรงขั้นต่ำไม่วันละ 308 บาท  โดยจะได้รับเงินภายใน 90 วัน


และเมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา นางสาวนฤมล เดินทางมาพร้อมกับแฟนหนุ่ม เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพันตำรวจโท ธนสกล ประมาณ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจช้างเผือก ซึ่งถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนสอบปากคำ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย