บุรีรัมย์ 10 พ.ย. – แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่ จ.บุรีรัมย์ โอนเงินไปให้ญาติยืม 200,000 บาท แต่โอนผิดบัญชี จึงติดตามขอทวงเงินคืน แต่ถูกบ่ายเบี่ยง ขอความเห็นใจ เป็นเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงค่อนชีวิต
แม่ค้าคนนี้ คือ น.ส.ณทชา อยู่ประพัต อายุ 42 ปี ขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณสี่แยกยืนยง เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เล่าว่า ญาติได้โทรมาขอยืมเงิน 200,000 บาท บอกว่า 5 วันจะคืนให้ จึงขอเลขบัญชีธนาคารเพื่อโอนเงินให้ครั้งละ 100,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2560 แต่ญาติไม่ได้รับ และโทรมาสอบถาม จึงรู้ว่าตัวเองกดเลขบัญชีผิด ไปเข้าบัญชีของเสี่ยเต็นท์รถคนหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งก็พยายามติดตามทวงถามเรื่อยมา โดยยืนยันหลักฐานการโอนเป็นสลิปที่โอนทางไอแบงก์กิ้ง ระบุบัญชีผู้รับชัดเจน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด อ้างว่าติดธุระบ้าง ยังไม่มีเวลาไปตรวจสอบบัญชีบ้าง เพราะมีเงินเข้าหลายทาง จนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้คืน จึงขอความเห็นใจ เพราะเงินก้อนนี้เป็นเงินเก็บมาค่อนชีวิต อีกทั้งไม่อยากมีเรื่อง หรือเป็นคดีความ เนื่องจากเสียเวลาทำมาหากิน อย่างไรก็ตาม หากก่อนสิ้นอายุความ 90 วัน หลังจากวันโอนเงิน ก็จะเดินเรื่องทางกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามไปยังธนาคารถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทางธนาคารระบุว่า เบื้องต้นผู้เสียหายต้องไปแจ้งความ และนำใบแจ้งความดังกล่าวมาให้ทางธนาคาร เพื่อแจ้งขอติดต่อบัญชีปลายทางให้คืนเงิน 200,000 บาท แต่หากไม่คืนก็ให้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งทางธนาคารต้นทางจะตามเรื่องให้
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำให้ น.ส.ณทชา ไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ในความผิดยักยอกทรัพย์ กับเสี่ยเต็นท์รถสิบล้อ เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินและยังไม่ยอมคืนเงินให้ เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดส่วนตัว สามารถยอมความได้ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท. – สำนักข่าวไทย