ส่งฟ้องหนุ่มใหญ่ใช้ไม้ทุบหัวสุนัขเจ็บ-ตาย

นนทบุรี 8 พ.ย.-ตำรวจคุมตัวหนุ่มใหญ่ใช้ไม้ทุบหัวสุนัขเจ็บ-ตาย ส่งอัยการฟ้องต่อศาลแล้ว หลังเจ้าของเรียกค่าเสียหาย 1 แสนบาท ศาลสั่งให้มีการสืบเสาะก่อนมีคำพิพากษา


หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อทีมงาน ป.ปีนัง นกกรงหัวจุก โพสต์คลิปชายคนหนึ่งกำลังใช้ไม้กระหน่ำตีสุนัขจำนวน 2 ตัว โดยในภาพเป็นภาพชายวัยกลางคนถือไม้เดินเข้าไปในป้อมยามของหมู่บ้าน จากนั้นได้เดินอ้อมออกมาจากประตูป้อมยามและใช้ไม้กระหน่ำตีสุนัขสีดำที่นอนอยู่ข้างป้อมยามแบบไม่นับ จากนั้นมีสุนัขสีน้ำตาลวิ่งเข้าไป คาดว่าน่าจะเข้าไปช่วยสุนัขสีดำ จึงได้ถูกชายคนดังกล่าวใช้ไม้ตีไปที่หน้าสุนัขสีน้ำตาลจนสลบ และเดินเข้าไปตีซ้ำก่อนจะลากขาสุนัขสีน้ำตาลมาโยนไว้ที่ด้านหลังป้อม และนำขึ้นไว้ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์พร้อมกับตีซ้ำ จากนั้นได้เดินไปลากสุนัขสีดำมาที่ท้ายรถจักรยานยนต์ ตีซ้ำก่อนนำขึ้นไปไว้ที่หน้ารถและขับรถออกไปจากหมู่บ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนยืนดูจำนวน 2 คนโดยไม่ได้ช่วยเหลืออะไร 


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณป้อมยามหมู่บ้านเอื้ออาทร 2 หมู่ 4 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบถาม น.ส.โบว์ (เสื้อสีเทานามสมมุติ) แม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ระบุหมาไม่ได้ทำอะไรให้ เห็นแล้วมันรับไม่ได้จิตใจโหดร้ายมาก เขาไม่ยอมหยุดตีเห็นแล้วสลดใจมาก ทำแบบนี้มันเกินเหตุหมามันไม่ได้ทำอะไรผิด ด้าน พ.ต.อ.อรรณพ นวมนาคะ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อำเภอบางบัวทอง ปศุศัตว์อำเภอบางบัวทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเนื่องจากทางอัยการให้ตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี 


เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี นายจินดา อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาคดีทารุณกรรมสัตว์และทำให้เสียทรัพย์ จากกรณีใช้ไม้กระหน่ำตีสุนัขตาย 1 ตัว บาดเจ็บสาหัส 1 ตัว และนางสุปราณี อายุ 47 ปี เจ้าของสุนัขสีน้ำตาลชื่อ สวย ได้เดินลงมาจากศาลหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นฟ้องไป 2 สำนวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คดีอาญา ระวางโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงเหลือโทษจำคุก 1 ปีครึ่ง ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เนื่องด้วยวันนี้มีการยื่นฟ้องไป 2 สำนวน จึงทำให้ไม่สามารถพิจารณาคดีได้เพราะเป็นทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ต้องให้ทำการสืบเสาะคดีแพ่งและพิจารณาคดีจนเสร็จสิ้นก่อนจึงสามารถพิจารณในคดีอาญาต่อไปได้ วันนี้ผู้ต้องหาจึงขอประกันตัวเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ศาลจะนัดพิจารณาคดีอีกครั้งในเวลาประมาณ 1 เดือนข้างหน้า

นายจินดา ผู้ต้องหา กล่าวว่าตนเป็นประธานชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยค่อนข้างที่จะเยอะพอสมควร ในการเข้าออกตรงจุดนั้น และได้รับร้องเรียนว่าสุนัขตัวดังกล่าวมีการไล่กวดเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้รถหกล้ม ตนจึงได้ตัดสินใจตอนแรกคิดว่าจะใช้ไม้แย่มันจากนั้นได้ตีไปหนึ่งที และมีสุนัขวิ่งเข้ามาตนไม่รู้ว่ามันจะมากัดไหมจึงใช้ไม้ตีไปที่อีกตัวหนึ่ง จากนั้นได้ลากใส่รถแล้วเอาไปปล่อยที่คลองเจ็ก แล้วมันก็วิ่งหนีไปอีกตัวได้กลับมาหาเจ้าของมันและเขานำไปรักษา ตนอยากวอนให้สังคมเข้าใจตนบ้างตนต้องทำหน้าที่ของตน ตนไม่เข้าใจว่า พ.ร.บ.คุมครองสัตว์ และอยากให้สังคมเข้าใจตนและลดคำประนามตนครอบครัว

เมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 04.50 น. ของวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 เจ้าสวยสุนัขเพศเมีย ซึ่งเป็นสุนัขตัวที่สอง ที่วิ่งเข้าไปจะช่วยเพื่อนสุนัขตัวแรก จึงทำให้ถูกตีจนแน่นิ่งไปด้วยนั้น ได้มีผู้ใจบุญนำมารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์สายใยรัก อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยนายสัตว์แพทย์ธนู ลิมปพัฒนาวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์สมุทรสาคร, ผอ.รพ.สัตว์สายใยรัก เปิดเผยว่า เมื่อแรกรับอาการเจ้าสวยเข้ามานั้น พบว่าสุนัขมีการอาการบอบช้ำตามร่างกายอย่างหนัก หน้าตา ปาก ลำตัวโดยเฉพาะช่วงก้นมีอาการบวม อีกทั้งยังมีแผลแตกที่หัวเลือดไหลออกมา จึงได้รีบนำตัวเข้าตรวจเอ็กซเรย์ด้วยเครื่องระบบดิจิตอล และตรวจกระดูกตามร่างกาย รวมถึงภาวะความดันโลหิตอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นก็พบว่า ที่หัวของเจ้าสวยนั้นมีลักษณะคล้ายเลือดคลั่งในศีรษะ ส่วนแผลแตกก็ได้ทำการเย็บ 2 เข็ม ขณะที่กระดูกต้นคอก็น่าจะมีอาการเคลื่อนหรือแตกร้าว จึงทำให้เจ้าสวยยังไม่สามารถที่ยกจะกระดกหัวขึ้นได้ ส่วนอื่นๆ นั้น เป็นปกติดี ซึ่งก็ได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน จากนั้นก็จะต้องให้การรักษาด้วยวิธีการทางการแพทย์ เพื่อให้สภาพร่างกายให้กลับคืนสู่ภาวะปกติสามารถลุกขึ้นยืน ยกหัว กินอาหารได้ ขณะที่อาการที่ต้องเฝ้าสังเกตในระยะฟื้นฟูนี้ ก็เช่น การกินอาหาร การหายใจ การอาเจียน และอาการข้างเคียงอื่นๆ หากภายใน 1 สัปดาห์ไม่มีภาวะผิดปกติ เจ้าสวยก็จะปลอดภัยอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย