กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – ปลัดอุตฯ ห่วงอากาศหนาวเกิดเหตุโรงงานไฟไหม้บ่อย สั่งแจ้งเตือนผู้ประกอบการเฝ้าระวัง จับตาเข้มโรงงานทำพลุและดอกไม้เพลิง
นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทำให้เกิดสภาพอากาศที่แห้งแล้งอาจก่อให้เกิดเหตุภาวะฉุกเฉินและเหตุอัคคีภัยได้ง่าย ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองต่าง ๆ เช่น เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งจากสถิติพบว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเกิดเหตุเพลิงไหม้และอุบัติเหตุจากการทำงานมาก โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเร่งทำการผลิต หรือขาดการบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักร รวมทั้งขาดความเชี่ยวชาญหรือความรู้ ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ และความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ของผู้ประกอบการและชุมชนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบได้
นายพุส กล่าวว่า ได้สั่งการให้อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนโรงงานให้ระมัดระวังและเข้มงวดด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูงประมาณ 14,000 โรงทั่วประเทศ เช่น โรงงานแป้งมัน โรงงานสิ่งทอ ปั่นด้าย ทอผ้า โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า โรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ โรงงานผลิตกระดาษ โรงงานประกอบกิจการสี ทินเนอร์ โรงงานทำพลุและดอกไม้เพลิง โรงงานผลิตภัณฑ์ยาง โรงงานผลิตภัณฑ์พลาสติก ซึ่งโรงงานประเภทเหล่านี้จากสถิติที่ผ่านมาเคยประสบเหตุเพลิงไหม้บ่อยครั้ง ดังนั้น หน่วยงานในสังกัดจะต้องแนะนำพร้อมเผยแพร่ข้อปฏิบัติและคู่มือด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ที่กระทรวงฯ จัดทำไว้ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์ของกรมโรงงานฯ www.diw.go.th
“มีความห่วงใยโรงงานผลิตพลุและดอกไม้เพลิงที่มีอยู่ 18 โรงอย่างยิ่ง โดยกำชับให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) แจ้งเตือนและกำชับผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ระมัดระวังการประกอบกิจการโรงงานทุกขั้นตอน รวมถึงบริเวณที่มีการผลิต การจัดเก็บวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ ต้องไม่มีแหล่งกำเนิดประกายไฟ หรืออยู่ใกล้กับเชื้อเพลิง และสารไวไฟทุกชนิด รวมถึงกำชับพนักงานให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน และทำตามขั้นตอนการดำเนินการอย่างปลอดภัย และเข้มงวดเป็นกรณีพิเศษ โรงงานเกี่ยวกับการทำพลุและดอกไม้เพลิงจะตั้งอยู่ใน จ.สมุทรปราการ ปทุมธานี ชัยนาท สระบุรี นครราชสีมา ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู สุโขทัย สมุทรสาคร” นายพสุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย