นนทบุรี 2 พ.ย.-ส่วนผลการจันอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ ปี 2018 ตามรายงาน Doing Business ของธนาคารโลก ที่ไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่ 26 จากอันดับ 46 โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ได้อันดับขยับอันดับขึ้นสูงที่สุด
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า โดยในปี 2018 ประเทศไทย ได้คะแนนความยาก – ง่ายในการประกอบธุรกิจดีขึ้นเป็น 77.44 จาก 72.53 คะแนนในปี 2017 ถือเป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่มีการพัฒนาที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ที่กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงนั้น สามารถลดขั้นตอนเหลือเพียง 4.5 วัน เมื่อเทียบกับ 27.5 วันของปีก่อน โดยมีการยกเลิกข้อบังคับที่ต้องมีตราประทับของบริษัท และยกเลิกขั้นตอนการขออนุมัติจากกรมแรงงานในการส่งกฏข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท ทำให้อันดับ ถึง 42 อันดับ โดยในปีหน้า ยังคงเดินหน้าลดขั้นตอนการเริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งในเบื้องต้น จะรวมการจองชื่อบริษัท ที่ใช้เวลาครึ่งวัน และการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท อีก 1 วัน เข้าด้วยกันให้เหลือเพียงครึ่งวันเท่านั้น ซึ่งจะสามารถลดเหลือเพียง 3.5 วันจากเดิม 4.5 วัน รวมทั้งจะร่วมกับสำนักงานประกันสังคม และกรมสรรพากร เนื่องจากอยู่ในกระบวนการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วย โดยเชื่อมโยงระบบนิติบุคคล / การขึ้นทะเบียนลูกจ้าง และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผ่านแพลทฟอร์ม เดียวกัน
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมในการยื่นจดทะเบียนผ่าน ระบบอี-รีจิสเตรชั่น (e-Registration) เพื่อจูงใจให้มีการใช้ระบบอิเล็คทรอนิกส์มากขึ้น เพราะจะมีการชี้วัดจากจำนวนผู้ใช้ที่ต้องเกินร้อยละ 50 ด้วย จากปัจจุบัน มีผู้จดทะเบียนอิเล็คทรอนิกส์ ไม่ถึงร้อยละ 10 ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้ทันรอบการพิจารณาของปี 2019 ภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ขณะที่ ภาพรวมตัวชี้วัน 10 ด้าน ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานนั้น สำนักงาน ก.พ.ร. จะเป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงการปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้อันดับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยรัฐบาล มีเป้าหมาย ติด 1 ใน 10 ของประเทศที่ง่ายต่อการการทำธุรกิจ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ และสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนจากต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย