สมชัย ย้ำต้องปลดล็อคพรรคการเมือง

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง 1 พ.ย.-สมชัย ย้ำต้องปลดล็อคพรรคการเมืองเท่านั้น  หลังเริ่มนับเมื่อกฎหมายประกาศใช้  เตือนพรรคการเมืองอย่าชะล่าใจ กรอบเวลาที่พรรคต้องทำ 90 และ 180 วัน   แม้จะขอขยายเวลาได้  แต่หากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเมื่อใดต้องยึดตามกรอบกฎหมาย 


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง  แถลงข่าวเรื่องความคืบหน้าในการจัดทำระเบียบ กกต.และ ประกาศ กกต. ที่เกี่ยวข้องกับ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560  ว่า ขณะนี้การเตรียมการของ กกต.มีความคืบหน้ามาก โดยจะมีการจัดทำทั้งหมด 8 ฉบับ คือ  ร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง, ร่างประกาศ กกต. เรื่อง บัญชีรายชื่อภาคและจังหวัด, ร่างประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง การเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง และการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด, ร่างประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง วิธีการรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง, ร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง, ร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยการบริหารเงินและทรัพย์สินของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง, ร่างประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การรายงานทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง และร่างประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่องการให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่สมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุม กกต.ได้ให้ความเห็นชอบร่างระเบียบและประกาศไปเกือบทั้งหมดแล้ว ยังถือว่าอยู่ในช่วงเวลา 60 วันตามกฎหมายกำหนด    ส่วนการประกาศราชกิจจานุเบกษานั้น จะสามารถทำได้ทันทีหลัง คสช.ปลดล็อกพรรคการเมือง  หรือหลังปลดล็อก 2-3 วัน   แต่ก็อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน  ซึ่งหาก คสช.ไม่ปลดล็อคพรรคการเมืองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

นายสมชัย  กล่าวว่า หลังมีการประกาศระเบียบในราชกิจจานุเบกษาแล้ว   กกต.จะจัดเตรียมเอกสารเพื่อแจกจ่ายพรรคการเมือง และเปิดช่องทางสอบถาม  ทั้งทางเว็บไซต์และโทรศัพท์ เพื่อให้พรรคการเมืองโทรเข้ามาสอบถามได้ จากนั้นไม่เกิน 10 วัน จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองเก่าที่ขณะนี้มีประมาณ 70 พรรค   จำนวนพรรคละ 3 คน เข้าประชุม   ส่วนผู้ที่สนใจจะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่สามารถขอเอกสารได้ แต่กกต.จะจัดประชุมให้หลังประชุมพรรคการเมืองเก่า   จึงอยากให้พรรคการเมืองคลายความกังวลใจ เพราะ กกต.จะอำนวยความสะดวก


 นายสมชัย   กล่าวอีกว่า กรณีมีชัยระบุว่าพรรคการเมืองไม่ต้องกังวล กกต.สามารถขยายเวลาในการดำเนินการเป็นการชดเชยได้นั้น เท่าที่ตนศึกษามาจะพบว่า กกต.ไม่มีอำนาจในการที่จะขยายเวลาในการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น    ซึ่งกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 141 วรรค 2 ระบุว่าพรรคการเมืองที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทำให้ขออนุญาตนายทะเบียนพรรคการเมืองซึ่งก็คือเลขาธิการ กกต. ไม่ได้มาขอที่ กกต. มีกรณีเดียวที่ กกต.จะพิจารณา   ก็ต่อเมื่อนายทะเบียนไม่อนุมัติเท่านั้น    แต่หากพรรคการเมืองขอขยายเวลาแล้วนายทะเบียนอนุมัติกระบวนการก็จะไม่ผ่าน กกต. ซึ่งในส่วนนี้การอบเวลาแรกที่พรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน 70 พรรค ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หรือ ภายในวนที่ 6 ม.ค.2561 คือต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง หากพรรคการเมืองไม่สามารถแจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคได้ทัน ก็ให้ทำหนังสือขอขยายเวลาถึงนายทะเบียนพรรคการเมืองก่อนครบกำหนดเวลา  โดยการแจ้งแต่ละพรรคจะต้องแจ้งเอง ไม่สามารถขอในลักษณะรวมทั้งหมดได้ 

นายสมชัย ยังกล่าวว่า กฎหมายกำหนดว่าสิ่งที่พรรคการเมืองต้องทำในระยะถัดไปในช่วงเวลา 180 วัน หรือภายใน 5 เม.ย.2561 คือ  การหาสมาชิกให้ได้ 500 คน มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท สมาชิก 500 คนชำระค่าบำรุงพรรค ประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมาย ประชุมเพื่อจัดตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคประจำจังหวัด  ซึ่งในส่วนนี้สามารถขยายเวลาได้แต่ก็ไม่อยากให้พรรคการเมืองนิ่งนอนใจ  เพราะเห็นว่าขยายเวลาได้  เพราะถ้าทำไม่เสร็จ  แล้วระยะเวลาล้ำเข้าไปในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ก็จะเป็นปัญหาว่าพรรคการเมืองนั้นไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้  ตามมาตรา 141 วรรคสอง   อีกทั้งก็จะไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรเงินพัฒนาพรรคการเมืองตามมาตรา 142  ด้วยเช่นกัน

“การดำเนินการทั้งหมดของพรรคการเมืองถ้าทำไม่เสร็จต้องขอขยายเวลา แต่ดำเนินการไม่เสร็จแล้วถ้ามีการเลือกตั้งเร็วก็จะส่งผู้สมัครไม่ได้ ฉะนั้นขึ้นอยู่กับว่าเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้าถ้าช้าระยะเวลาดังกล่าวก็เป็นระยะที่ปลอดภัย แต่ถ้ามีการเลือกตั้งเร็วแล้วกระบวนการดำเนินการของพรรคการเมืองล้ำเข้ามาในระยะเวลาของการเลือกตั้งก็จะเป็นอันตรายทำให้พรรคไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ ซึ่งผู้ที่จะลงสมัครก็จะต้องมีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคมาแล้วไม่น้อยกว่า 90 วัน”นายสมชัยกล่าว


นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่ประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทาง กกต.ได้มีการจัดเตรียมเรื่องแบบฟอร์มและคู่มือพร้อมหมดแล้ว และได้วางแนวทางในการปฏิบัติไว้ว่า จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน จะจดเป็นพรรคการเมืองได้เลย  แต่เนื่องจากยังมีคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ได้ขณะนี้ 

“เวลาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เริ่มเดินแล้ว แต่ คสช.จะปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้เมื่อใดจึงจะถือว่าเหมาะสม เป็นเรื่องที่ คสช.จะพิจารณา ไม่ใช่อำนาจของ กกต. ซึ่งคสช.คงจะพิจารณาถึงสถานการณ์เป็นหลัก หากเห็นว่ายังไม่ปกติก็คงจะยังไม่ดำเนินการ แต่ กกต.ในฐานะผู้ทำตามกฎหมาย พ.ร.บ. เราก็ต้องเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม เพราะถ้าเราไม่ทำเราก็ผิดกฎหมาย”นายสมชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวในวันนี้ (1 พ.ย.) นายสมชัย ได้เปิดแอปพลิเคชั่นเคาท์ดาวน์ ซึ่งเป็นการตั้งเวลลานับย้อนหลังในช่วงกฎหมายกำหนดให้ดำเนินการในช่วง 90 วัน และ 180 วัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]