ระทึก! ไล่ล่ากลางกรุงรถเก๋งถูกขโมยมานานนับเดือน

กทม. 31 ต.ค.-หนุ่มโพสต์คลิปวินาทีไล่ล่าตามรถเก๋ง หลังถูกขโมยไปนาน 1 เดือน และลูกขับรถมาพบโดยบังเอิญบริเวณถนนพระราม 5 ขอให้ทหาร ตำรวจ วินมอเตอร์ไซค์ ตามสกัดกันวุ่น


วันที่ 31 ต.ค. จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Nam Sriwong ได้โพสต์คลิปนาทีการไล่ล่ารถยนต์คันหนึ่งย่านถนนพระราม 5 ซึ่งระบุว่ารถโดนขโมยมาเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งมีการแจ้งจับไว้เรียบร้อยแล้ว แต่บังเอิญมาพบรถตัวเองขับอยู่บนถนน จึงมีการขับรถไล่ล่ากัน คลิปดังกล่าวมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า นายตำรวจที่ปรากฏในคลิปคือ พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รักษาราชการแทน รอง ผบช.น. ดูแลงานยาเสพติด 


โดย พล.ต.ต.ฤชากร กล่าวว่า ระหว่างที่ขับรถกลับบ้านเมื่อช่วงเย็นวานนี้สังเกตเห็นรถยนต์ขับรถมาค่อนข้างเร็ว มีรถขับไล่ติดตามมา มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับตามจอดรถปาดหน้าแล้วยืนชี้รถคันดังกล่าวอยู่ และมีคนจากรถคันที่ขับตามมา เข้าไปกระชากประตูแล้วบอกว่าคนที่ขับรถยนต์คันดังกล่าวขโมยรถมาลักษณะเหมือนจะมีเรื่องทะเลาะกันจึงโทรแจ้งให้ สน.ดุสิต ส่งกำลังสายตรวจเข้ามาบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แม้ขณะนั้นตัวเองไม่ได้แต่งเครื่องแบบ เนื่องจากเพิ่งเลิกจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ต้องทำหน้าที่ตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลประชาชน จะปล่อยปละละเลยไม่ได้

โดยผู้ขับขี่รถยนต์ที่ถ่ายคลิปนี้คือนายนิติศาสตร์ พันธ์ชื่น เล่าว่าเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ขับรถยนต์พาภรรยา พร้อมเพื่อนจากจังหวัดปราจีนบุรี มาหาซื้ออุปกรณ์มือถือไปขายที่ย่านสนามเสือป่า แต่ระหว่างทางพบรถยนต์นิสสันนีโอ ทะเบียน ศง 9739 กทม.ของที่บ้านที่ถูกคนรู้จักลักไป วิ่งอยู่แถวสนามม้านางเลิ้ง จะขับรถตามและลงไปบอกคนขับขอรถคืน แต่นายภควัฒน์ สีม่วง อายุ 47 ปี ได้ขับรถหลบหนี ขณะนั้นมีตำรวจ สน.ดุสิตขับรถยนต์ผ่านมา จึงช่วยจับกุมนายภควัฒน์ ได้ที่แยกวัดเบญฯ จึงนำตัวพร้อมรถยนต์ส่งตำรวจสอบปากคำ ก่อนส่งตัวให้ตำรวจสภ.คลองหลวงดำเนินคดี 


เวลา 16.30 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2560 นางพิฒิยา  ศิริวรรณ อายุ 49ปี และนายภัทราวุฒ ศรีวงษ์ อายุ 51 ปี สองสามีภรรยาได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยศวัฒน์ นิติรัจพัฒนาคุณ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้ปากคำของสำนวนคดีดังกล่าว นายภัทราวุฒ ศรีวงษ์ เคยรู้จักกับนายภัควัฒน์ สีม่วง กันมาก่อน ได้ติดต่อชวนมาร่วมงานที่ตลาดไทด้วยกันโดยบอกให้ตนเองไปดูเพื่อหารถมาวิ่งทำธุรกิจขนผักเพราะรายได้ดี ซึ่งเขาก็โทรให้มาหาเที่ยวๆ ย่านบางกะปิ ตนเองก็ขับรถมากับภรรยาจากปราจีนบุรีเพื่อมาพบเขา 

ส่วนนางพิฒิยา ศิริวรรณ บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาประมาณ 1 เดือน โดยนายภัควัฒน์ สีม่วง(ผู้ต้องหา) ได้คุยเรื่องธุรกิจในตลาดไท โดยชวนให้เข้ามาร่วมทุนด้วยโดยนัดเจอกันที่บางกะปิ ซึ่งตนเองและสามีเป็นคนบ้านนอกไม่ค่อยชินเส้นทางในกรุงเทพ นายภควัต สีม่วง ก็บอกว่าพี่ผมขอขับรถเอง เพราะพี่ไม่ชำนาญทางในกรุงเทพฯ ซึ่งตนเองก็เห็นว่าเออเราคนต่างจังหวัดก็เลยให้เขาขับไปตั้งแต่บางกะปิมาถึงตลาดไท แต่เขาก็ขับวนอยู่หลายรอบ ตอนนั้นก็ประมาณเที่ยงคืนกว่า เขาก็บอกว่าชวนกินข้าวต้มก่อน โดยให้ตนเองและสามีอยู่ที่ร้านข้าวต้ม จากนั้นเขาก็บอกว่าเดี๋ยวไปหาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านเซเว่นในตลาดไท จากนั้นเขาก็ขับรถออกไป ในตอนแรกคิดว่าเขาเอารถเราไปจอดอยู่ข้างๆ ร้านเซเว่น ก็แปลกใจว่าเป็นเวลานานกว่า 10 นาทีแล้ว จึงโทรหาเขา เขาก็ไม่รับสาย ซึ่งตนเองก็พยายามโทรหาเขาก็ตัดสายทิ้งอยู่ตลอดและปิดโทรศัพท์หนี ตนเองและสามีเห็นว่าผิดสังเกตุ รอถึงเกือบเที่ยงคืนครึ่งจึงเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ. คลองหลวง ซึ่งนายภัควัฒน์ สีม่วง ผู้ต้องหารายนี้รู้จักกับครอบครัวของตนเองประมาณ 10 ปี ส่วน น.ส.ไพริน ศิริเกตุแก้ว (ผู้ต้องหา) อีกคนตนเองไม่รู้จักและเพิ่งเคยเจอหน้ากันที่ สน.ดุสิต

ทางด้าน พ.ต.ท.ยศวัฒน์  นิติรัจพัฒนาคุณ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า นายภควัฒน์ สีม่วง มีหมายจับจากจังหวัดปัตตานี ในคดียักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2555 ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องด้วยอยู่ระหว่างตรวจสอบ สำหรับผู้เสียหายหลังจากสอบปากคำเรียบร้อยแล้วก็จะมีการบันทึกรับรถคืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]