ก.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ กฎหมายชายหาดปลอดบุหรี่ นำร่อง 24 หาด ใน 15 จังหวัด ก่อนบังคับใช้กฎหมาย 1 ก.พ. 61
รร.เซ็นทราศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ 31 ต.ค.- พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส)กล่าวหลังเป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในด้านการป้องกันภัยคุกคามทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและภัยสุขภาพจากบุหรี่บริเวณพื้นที่ชายหาดว่า หลังจากนี้ทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในการรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจ เช่น การทำป้ายประชาสัมพันธ์ และให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตักเตือนก่อนมีการบังคับใช้กฎหมายเอาผิดผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด ซึ่งอาศัยอำนาจตามความมาตรา 17 ประกอบมาตรา 3 แห่ง พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับในช่วง 90 วัน ก่อนจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.พ.2561 โดยยืนยันว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นการห้ามสูบบุหรี่ แต่เป็นการจัดระเบียบการสูบบุหรี่ให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ รวมถึงการไม่ทิ้งก้นกรองบุหรี่ตามชายหาด ซึ่งจะเป็นปัญหาขยะในอนาคต ส่วนท่าเรือ หรือ บนเรือท่องเที่ยวที่เป็นพื้นที่สาธารณะในอนาคตก็อาจจะต้องมีการไปดูแลต่อไป
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะเริ่มนำร่องใน 24 ชายหาดใน 15 จังหวัดประกอบด้วย หาดบานชื่น อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด หาดแหลมเสด็จ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี หาดแสงจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง หาดบางแสน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หาดถ้ำพัง อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี หาดทรายแก้ว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หาดดงตาล พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หาดชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี หาดหัวหิน เขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร หาดบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หาดโฉลกบ้านเก่า เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หาดปลายทราย อำเภอปากผนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หาดชลาทัศน์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หาดวาสุกรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี หาดป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต หาดเกาะไข่นอก หาดเกาะไข่ใน อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา หาดเขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หาดพระแอะ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ หาดคลองดาว หาดคอกว้าง อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ หาดสำราญ อำเภอสำราญ จังหวัดตรัง โดยในอนาคตจะมีการ ประกาศให้ทุกชายหาดในประเทศเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่
โดยความร่วมมือดังกล่าว เป็นความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมควบคุมโรค กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดตราด กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นายกเมืองพัทยา บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ขุดสำรวจปริมาณก้นบุหรี่ ในพื้นทราย ชายหาด 5 แห่ง ในระดับความลึก 5 เซนติเมตร ถึง 20 เซนติเมตร ได้แก่ หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต พบก้นบุหรี่ 101,000 ชิ้น คิดเป็น 0.76 ชิ้นต่อตารางเมตร ,หาดบางแสน จังหวัดชลบุรี 106,480 ชิ้น คิดเป็น 0.62 ชิ้นต่อตารางเมตร ,หาดชลาทัศน์ จังหวัดสงขลา 177,000 ชิ้น คิดเป็น 3.56 ชิ้นต่อตารางเมตร, หาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง 112,470 ชิ้น คิดเป็น 2.30 ชิ้นต่อตารางเมตร และหาดทรายรี จังหวัดชุมพร 52,378 ชิ้น คิดเป็น 1.05 ชิ้นต่อตารางเมตร
โดยผลสำรวจก้นบุหรี่ ซึ่งประกอบด้วยสารท็อกซิน (Toxin) นิโคติน (Nicotine) ยาฆ่าแมลงและสาร ก่อมะเร็ง ในไทยที่ตกค้างพื้นที่ต่าง ๆ มีมากถึง 100 ล้านชิ้นต่อวัน ส่งผลให้การปนเปื้อน กระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุดไทย ถูกจัดอยู่อันดับที่ 6 ที่ทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุดในโลก.-สำนักข่าวไทย