ตลท. 30 ต.ค. – ผู้จัดการ ตลท.ชี้หุ้นไทยทะลุ 1,700 จุด ไม่ร้อนแรงเกินไป เหตุปัจจัยพื้นฐานแกร่ง ขณะเดียวกันหวังเพิ่มมูลค่าการซื้อขายถึง 100,000 ล้านบาทต่อวัน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า แม้ดัชนีหุ้นไทยจะทะลุ 1,700 จุด แต่ก็ไม่ได้เป็นภาวะที่ร้อนแรงเกินไป เพราะหากเทียบกับดัชนีที่เคยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,753 จุด เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2537 หรือจะครบ 24 ปีในเดือนมกราคมปี 2561 ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้นจาก 3.3 ล้านล้านบาท เป็น 17 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ขณะที่จำนวนบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 300 กว่าบริษัท เป็น 700 กว่าบริษัท ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว และฐานผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1 ล้านราย สะท้อนคุณภาพตลาดหลักทรัพย์มีความแข็งแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขอให้นักลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก่อนการลงทุน เพราะปัจจุบันราคาหลักทรัพย์หลายตัวสร้างสถิติสูงสุดไปแล้ว ส่วนปัจจัยคาดว่าจะกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก อาทิ แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ การลดขนาดการอัดฉีดสภาพคล่องหรือ QE ของประเทศในยุโรป และปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ
นางเกศรา กล่าวด้วยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอีก 15 บริษัท จากที่เข้าระดมทุนแล้ว 24 บริษัท รวมเป็น 39 บริษัท ทำให้มูลค่าการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนใหม่ทั้งปีนี้จะสูงทะลุเป้าหมายที่ประมาณ 320,000 – 350,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 250,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าเพิ่มขนาดมาร์เก็ตแคปปีละ 550,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อขายให้ถึง 100,000 ล้านบาทต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 46,000 -47,000 ล้านบาทต่อวัน
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำโครงการ IPO Focus โดยร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางกฏหมาย เดินสายและเป็นพี่เลี้ยงให้ความรู้ความเข้าใจกับบริษัทเอกชนที่สนใจจะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อลดปัญหาของบริษัทเอกชนที่สนใจจะเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ พร้อมทั้งอธิบายถึงบทบาทและหน้าที่ของบริษัทจดทะเบียนว่า นอกเหนือจากการเข้ามาระดมทุนแล้ว จะต้องมีหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส และมีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณชน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนเช่นบริษัทจดทะเบียนที่มีอยู่ในขณะนี้
ด้านนายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า มีบริษัทจดทะเบียนประมาณ 10 รายเข้าข่ายเสี่ยงถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากมีส่วนทุนติดลบและติดเครื่องหมาย SP หรือเครื่องหมายห้ามการซื้อขายมานาน ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังมีการปรับปรุงเครื่องหมายแจ้งเตือนนักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังหากจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่ถูกขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย