แจ้งวัฒนะ 20 ต.ค.-อัยการนำแม่-ลูกที่ถูกรถหน่วยงานราชการชน เข้าร้อง ยธ.เพื่อขอรับความช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยาจากกองทุนยุติธรรม
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นำนางปวีณา หาทรัพย์เเละน้องปาล์ม อายุ 3 ขวบที่พิการเนื่องจากถูกรถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ขับชน เป็นผลให้บุตรชายต้องพิการ มีอาการชาตั้งเเต่ราวนมมาถึงช่วงล่าง ไม่มีความรู้สึกเดินไม่ได้ อีกทั้งเวลาขับถ่ายไม่มีความรู้สึกต้องใส่เเพมเพิร์ตเเละปัสสาวะทางสายยาง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2558 เข้าพบกับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) เพื่อสอบถามขั้นตอนรับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม
นายธวัชชัย กล่าวว่า จากการพูดคุยสอบถามเบื้องต้น พบว่าเหตุเกิด เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2558 คนขับรถตำแหน่งอาสาสมัครของโรงพยาบาลเเห่งหนึ่ง ใน จ.ขอนแก่นได้ขับรถกระบะ ทะเบียน บว4942 ขอนแก่น ขับรถชนรถจักรยานยนต์ สามีเเละลูกชายของนางปวีณา ซึ่งผู้เสียหายได้เเจ้งความดำเนินคดีอาญา และฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งไป โดย ศาลแขวงขอนแก่นได้มีคำพิพากษาจำคุกคนขับ 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ไปเเล้ว
ส่วนคดีแพ่งทางผู้เสียหาย คือสามี ซึ่งได้รับบาดเจ็บกับน้องปาล์มและนางปวีณาเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำเลยที่ 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำเลยที่ 2 เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยมีการไกล่เกลี่ยกันมาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้
ทั้งนี้ การช่วยเหลือของกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากทางคดีอาญานั้นถือว่ามีคำสั่งสิ้นสุดแล้วก็จะได้รับเรื่องไว้เพื่อไปต่อสู้เรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป โดยจะสนับสนุนค่าจ้างทนายความในการต่อสู้คดี ซึ่งทราบว่าในช่วยบ่ายวันนี้ ทางอัยการจะพาผู้เสียหายเข้าพบ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อ เพื่อพูดคุยเรื่องคดีเเละค่าเสียหาย ทาง ยธ.จะได้ส่งผู้เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมหารือด้วย ทราบว่าทางกระทรวงสาธารณสุขยินดีจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ถ้าหากไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ก็จะต้องต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามในชั้นนี้เงินช่วยเหลือที่ผู้เสียหายจะได้จากองทุนยุติธรรม เบื้องต้นจะได้ค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท, ค่าฟื้นฟูสภาพร่างกาย ไม่เกิน 30,000 บาท, ค่าขาดประโยชน์ในการทำมาหากิน จ่ายตามจริงวันละ 300 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และค่าอื่นๆที่คณะกรรมการกองทุนเห็นสมควรจ่าย ไม่เกิน 30,000 บาท
ทั้งนี้ เงินช่วยเหลือทั้งหมดจะได้เต็มจำนวนหรือไม่ ต้องตรวจสอบว่าได้รับเงินช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเงินประกัน หรือสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลจากหน่วยงานรัฐอื่นๆ ถ้าหากไม่เคยได้รับก็จะได้เงินช่วยเหลือเต็มจำนวนแน่นอน
ด้านนายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า หากประชาชนคนใดที่ประสบเหตุในลักษณะเช่นนี้ สามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือหรือสอบถามสิทธิ์ที่ตนเองจะได้รับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานอัยการ ที่มีอยู่ทุกจังหวัด หรือกองทุนยุติธรรมทั่วประเทศ เพื่อจะได้รับการช่วยเหลือ และรับเงินเยียวยาได้ตามสิทธิ์อย่างที่ควรจะเป็น.-สำนักข่าวไทย