พิษณุโลก 19 ต.ค.- ทีมสัตวแพทย์ดูแลเต็มที่เริ่มเคลื่อนย้ายช้างป่าถูกน้ำพัดตกคลองชมพู พยายามใช้แบ็กโฮพยุงตัวขึ้นรถบรรทุก เตรียมส่งไปลำปางให้ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยช่วยรักษา แต่ยังหวั่นบาดเจ็บหนัก พร้อมประเมินอาการทุกระยะ
ช้างป่าสีดอ น้ำหนักประมาณ 4,000 กิโลกรัม ที่ได้รับการช่วยเหลือมาได้สำเร็จ วานนี้ (18 ต.ค.) หลังถูกน้ำพัดตกคลองชมพู หมู่ 3 บ้านชมพูเหนือ ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตั้งแต่คืนวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (19 ต.ค.) ทีมสัตวแพทย์เริ่มเคลื่อนย้ายช้าง จากจุดที่พักฟื้นใต้ต้นยางใหญ่ โดยใช้รถแบ็กโฮ 2 คัน ผูกเชือกกับลำตัวช้าง แล้วค่อยๆ เคลื่อนย้ายไปทีละน้อย เพื่อขึ้นรถบรรทุกนำไปรักษาที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง
นายสัตวแพทย์ทวีโชค อังควานิช เจ้าหน้าที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง กล่าวว่า อยู่ระหว่างประเมินว่าจะเคลื่อนย้ายได้หรือไม่ ห่างมาได้ 10 เมตร น่าจะพอไหว เพราะพื้นที่เดิมไม่สามารถนำรถบรรทุกเข้ามาได้ สภาพดินอ่อน เกรงรถบรรทุกจะติดหล่ม ต้องค่อยๆ เคลื่อนช้างไปช้าๆ และใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการเคลื่อนย้าย คาดว่าช้างมีอาการบาดเจ็บที่ขาหลังทั้ง 2 ข้าง กระดูกขาอาจแตกหรือหัก หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท การรักษาขณะนี้จะดูตามอาการ โอกาสรอดของช้างนั้นค่อนข้างน้อย เพราะเป็นช้างโตแล้ว น้ำหนักมาก อายุประมาณ 15 ปี ถ้าเป็นลูกช้าง การรักษาอาจยังมีโอกาสรอดได้เกิน 50%
ด้าน น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ติดตามอาการช้างบาดเจ็บขาหลังทั้’ 2 ข้าง ไม่สามารถลุกยืนได้เอง โดยพบว่าขาหลังด้านขวามีอาการบวมโต เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์รักษาตามอาการ และมีมติร่วมกันในการที่จะเคลื่อนย้ายช้างโดยรถบรรทุกไปรับการรักษาที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง หากปล่อยไว้ตามธรรมชาติ ช้างคงไม่รอด ซึ่งทีมสัตวแพทย์ยังคงดูแลช้างป่าอย่างเต็มที่ สุดความสามารถ ท่ามกลางชาวบ้านเดินทางมาดูช้างกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำกล้วยและอ้อยมาให้ช้างกินด้วย ขณะที่ช้างสามารถกินอาหารและส่งเสียงได้ แต่ได้รับบาดเจ็บขาหลังทั้ง 2 ข้าง อาจจะกระแทกกับของแข็ง หินหรือต้นไม้ ระหว่างที่ถูกน้ำป่าซัด.-สำนักข่าวไทย