กรุงเทพฯ 16 ต.ค.- คปภ.นำกลุ่มผู้เสียหายร้องกองปราบ หลังถูกหลอกซื้อประกันภัยรถยนต์ โดยอ้างชื่อบริษัทประกันภัยถึง 9 แห่ง พร้อมยื่นข้อเสนอโปรโมชั่นพิเศษ มีผู้เส้ยหายตกเป็นเหยื่อแล้วกว่า 200 รายทั่วประเทศ
นายตนุภัทร รัตนพูลชัย รองเลขธิการด้านกฏหมายคดีและคุ้มครอง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. พาตัวแทนผู้เสียหายจำนวน 30 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพันตำรวจเอกชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม หลังผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 200 รายทั่วประเทศ เข้าร้องเรียนที่ คปภ. ว่าถูกบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด ซึ่งมีนางสาววราพร บุตรแสน และนายชาญยุทธ โสมาศรี เป็นนายหน้าติดต่อมาหลอกขายประกันภัยรถยนต์ โดยมีการอ้างถึงชื่อบริษัทประกันภัยชั้นนำ 9 แห่ง โดยการเสนอโปรโมชั่น ผ่อนชำระไม่เสียดอกเบี้ย และของแถมต่างๆ แต่กลับพบว่าไม่มีการส่งเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันภัยจริง แต่ใช้วิธีการออกเอกสารกรมธรรม์เป็นของทางบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัดเอง ซึ่งจากการตรวจสอบทางบริษัทดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันภัย เบื้องต้นทราบว่า มูลค่ารวมของผู้เสียหายที่เกิดจากการซื้อเบี้ยประกันภัยทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท
หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งอ้างชื่อว่านายสันติ มาจากบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด มาเสนอโปรโมชั่นของประกันภัยรถยนต์ ซึ่งขณะนั้นตนเองเพิ่งซื้อรถป้ายแดงมาได้ 3 เดือน และยังไม่ได้ป้ายทะเบียนจริง และขณะนั้นยังมีประกันภัยที่ทางบริษัทรถทำให้ จึงรับฟังข้อเสนอไว้เป็นข้อมูล แต่ยังไม่ได้มีการตกลงว่าจะสมัคร แต่นายสันติอ้างขอตรวจสอบเลขบัตรเครดิตว่าเข้าร่วมโปรโมชั่นหรือไม่ จึงได้ให้เลขหน้าบัตรไป จากนั้นได้มีข้อความแจ้งเตือนว่ามีการหักบัตรจำนวนเงิน 15,145 บาท จากทางต้นสังกัดของบัตร และ 2 วันต่อมามีเอกสารจากบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ มา จึงติดต่อกลับไปหานายสันติ เพื่อขอเงินคืนเพราะยังไม่ได้ตกลงที่จะทำ โดยตอนแรกนายสันติตกลงจะคืนเงินให้จำนวน 13,000 บาท เพราะอ้างว่าหักค่าดำเนินการ แต่ต่อมาก็ไม่สามารถติดต่อได้ และยังไม่ได้รับการคืนเงินจำนวนดังกล่าว จึงเข้าร้องเรียนตามขั้นตอน
นายตนุภัทร ระบุว่า ขณะนี้ทาง คปภ. ได้เพิกถอนใบอนุญาตนายหน้าบุคคลธรรมดาของนางสาววราพร และนายชาญยุทธแล้ว พร้อมแจ้งข้อหา ใช้หรือแสดงเครื่องหมายเป็นประกันภัย โดยผิดกฏหมาย และเป็นนายหน้านิติบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิเตอร์ จากการใช้ตราสัญลักษณ์บริษัทประกันภัย บนหน้าเว็บของ บริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ นอกจากนี้ยังพบว่านางสาววราพร ยังถูกบริษัทประกันภัยชั้นนำ 2 แห่ง แจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ยักยอกทรัพย์ และแอบอ้างใช้ชื่อประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทาง กฏหมาย
ขณะที่พันตำรวจเอกชาคริต ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกงประชาชน และเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน พร้อมฝากถึงผู้เสียหายหากยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้นำหลักฐานการโอนเงิน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองปราบได้ทันที และฝากเตือนไปยังประชาชนหากได้รับติดต่อจากทางโทรศัพท์ให้ทำประกันภัยหรือทำบัตรเครดิต ให้ตรวจสอบกับทางบริษัทต้นสังกัดก่อนตัดสินใจทำ และหากตัดสินใจทำให้โอนเงินเข้าชื่อบริษัทเจ้าของประกันภัยโดยตรง.-สำนักข่าวไทย
