ดำเนินคดีทั้งคู่! หนุ่มร้านทอง-ฝรั่ง หลังทะเลาะวิวาททำร้ายกัน

ชลบุรี 12 ต.ค.-ตำรวจพัทยาดำเนินคดีทั้งคู่ หนุ่มเจ้าของร้านทองและต่างชาติคู่กรณี หลังทะเลาะวิวาทถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บ


จากกรณีเจ้าของร้านทองขับเก๋งเฉี่ยวชนกับรถของชายชาวออสเตรเลียจนเกิดมีปากเสียงถึงขั้นฝรั่งคว้ามีดอีโต้ไล่ฟันหนุ่มไทยบาดเจ็บ  ก่อนที่หนุ่มร้านทองจะตรงเข้าชกหน้าต่างชาติล้มทั้งยืนต่อหน้าตำรวจและลูกสาว  ร.ต.อ.นครราช  นนสีลาด  รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยาเจ้าของคดี เปิดเผยคลิปจากกล้องติดหน้ารถคันตามหลังมีความยาวประมาณ 1.24 นาที  โดยภาพเห็นตอนที่รถนิสสันเอ็นวีที่ชาวต่างชาติขับมาจอด  โดยมีรถหนุ่มเจ้าของร้านทองคู่กรณีจอดด้านหน้า จากนั้นต่างชาติได้เดินลงจากรถแล้วมาหยิบมีดที่อยู่ด้านท้าย ก่อนนำไปทำร้ายรถของหนุ่มคู่กรณี จากนั้นต่างชาติได้เดินขึ้นรถและขับออกจากจุดเกิดเหตุแต่รถได้ชนหนุ่มเจ้าของร้านทองคู่กรณีที่ยืนกั้นหน้ารถเพื่อไม่ให้ต่างชาติหนีจนหนุ่มร้านทองกระเด็น ก่อนทั้ง 2 คนจะไปมีเรื่องชกต่อยกันภายในโรงเรียน


ด้านนายเจอร์ราร์จ อายุ 72 ปี สัญชาติออสเตรเลีย เดินทางมาพร้อมกับนางปัทมา อายุ 41 ปี แฟนชาวไทยเพื่อมาให้ปากคำกับ ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ตามคำนัดหมาย โดยนายเจอร์ราร์จ ได้รับบาดเจ็บเย็บ 9 เข็มบริเวณแก้มซ้ายจากการถูกชก โดยนายเจอร์ราร์จ เล่าว่า นายสุเมธได้ขับรถมาปาดหน้าและจอด พยายามขับรถถอยชนรถนายเจอร์ราร์จ และได้ลงจากรถมาด่าทอ จนนายเจอร์ราร์จทนไม่ไหวจึงได้หยิบมีดไปขู่และทำร้ายรถ แต่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนายสุเมธ หลังจากนั้นขึ้นรถเพื่อขับออกจากที่เกิดเหตุ แต่นายสุเมธจอดรถและเปิดประตูทิ้งไว้ นายเจอร์ราร์จ จึงได้ขับหลบพอดีนายสุเมธกระโดดมาขวางจึงได้เกิดจากชนดังกล่าว  ซึ่งยืนยันได้ว่ามีที่มีดอยู่หลังรถเพราะตนเองนำมาตัดต้นไม้และหญ้าที่บ้าน  และมีเครื่องมือเกี่ยวกับการตัดหญ้าอยู่เต็มหลังรถ  


ด้านนายสุเมธ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ตอนนี้ตนตกเป็นจำเลยสังคม ถูกประณามว่ารังแกคนแก่ แล้วยังไปต่อยในโรงเรียนต่อหน้าตำรวจและเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ในส่วนนี้ตนขอยอมรับผิด แต่ทำไปเพราะบันดาลโทสะจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ และต้องกราบขออภัยสังคม ซึ่งตนอยากให้สังคมมองเรื่องนี้สองด้านอย่างมีเหตุและผล ตนถูกกระทำก่อนและมีภาพคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานชัดเจน โปรดให้อภัยกับการกระทำของตนในครั้งนี้ ส่วนเรื่องคดีความตนขอยืนยันว่า จะเอาเรื่องถึงที่สุดในข้อหาพยายามฆ่า

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.( 12 ต.ค.60 ) ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้เรียกนายเจอร์ราร์จ มาสอบสวนและสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ซึ่งหลังจากสอบปากคำเรียบร้อยจึงได้แจ้งข้อกล่าว พยายามฆ่า ซึ่งนายเจอร์ราร์จ ได้ใช้หลักทรัพย์มูลค่า 200,000 บาท ในการประกันตัวเพื่อไปสู้คดี ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าวทางนายเจอร์ราร์จ ได้ให้การปฏิเสธ ส่วนนายสุเมธ  ทาง ร.ต.อ.นครราช นนสีลาด รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จะติดตามตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก