เชียงใหม่ 19 ต.ค. – ชาวไทยภูเขาตามดอยสูงทางภาคเหนือ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีรับสั่งให้เลิกปลูกฝิ่น หันมาปลูกพืชเมืองหนาว ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะผู้เฒ่าชาวม้งบนดอยปุย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จถึง 7 ครั้ง และสอนให้ลูกหลานทำความดีถวายพระองค์
บนดอยปุย ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อราว 50 ปีที่แล้ว เต็มไปด้วยไร่ฝิ่น จนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยือนชาวไทยภูเขาที่นี่ ทุกอย่างจึงเริ่มพัฒนา ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดอยปุยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.เชียงใหม่ มาถึงทุกวันนี้
ลุงสงหยี แซ่ย่าง ชาวม้ง วัย 78 ปี ยังจำเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมชาวบ้านที่นี่ เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ตั้งแต่ยังไม่มีถนน และยังเต็มไปด้วยไร่ฝิ่นและไข้มาลาเรีย ชาวบ้านหลายคน รวมทั้งลุงสงหยีได้รับเสด็จ ซึ่งครั้งนั้นทรงมีรับสั่งกับพ่อตาของเขา ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สอบถามความเป็นอยู่และการปลูกฝิ่นที่นี่ ไม่นานพระองค์ก็เสด็จฯ มาอีกครั้ง และรับสั่งขอให้ชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่น
ไม่นานชาวไทยภูเขาที่นี่ก็เลิกปลูกฝิ่น หันมาปลูกพืชเมืองหนาว ตามที่พระองค์รับสั่งให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยพัฒนา โดยลุงสงหยี มีโอกาสรับเสด็จและเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชถึง 7 ครั้ง และได้รับพระราชทานเหรียญที่ระลึกสำหรับชาวเขา ซึ่งพกติดตัวไว้ตลอด ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณมาจนถึงทุกวันนี้ และสอนลูกหลานให้ทำความดีถวายพระองค์
จากโครงการศึกษาไม้ผลของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของงานวิจัยส่งเสริมปลูกพืชทดแทนฝิ่น โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงก่อตั้งโครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขา ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ และกลายเป็นโครงการหลวงในปัจจุบัน ส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาตามดอยสูงในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือปลูกพืชผลไม้เมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น จนมีชีวิตที่ดีขึ้น
ปัจจุบันจากโครงการหลวงไม่กี่แห่ง ขยายสู่ 38 ยอดดอยใน 5 จังหวัดภาคเหนือ และอีกไม่กี่วันจะขยายเพิ่มเป็นโครงการหลวงที่ 39 ใน จ.ตาก เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพ่อหลวงของแผ่นดิน ที่อยากให้พสกนิกรในผืนแผ่นดินไทยมีชีวิตที่ดี. – สำนักข่าวไทย