ปปง.10 ต.ค.- คกก.ธุรกรรมของ ปปง. มีมติอายัดทรัพย์สินคดีทุจริตจำนำข้าวเพิ่มอีก 25 รายการ มูลค่าทรัพย์สิน 2.3 พันล้านบาท และคดีทุจริตเงินทอนวัด ยึดและอายัดทรัพย์สิน ‘นพรัตน์’อดีต พศ.กับพวก 33 รายการ 71 ล้านบาท
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาการเลขาธิการ ปปง.สานต่อนโยบายของพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน อดีตเลขาธิการ ปปง.อย่างต่อเนื่องทันที หลังจากได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการ ปปง. พร้อมเน้นรูปแบบการทำงานของสำนักงาน ปปง.ในแบบทีมบูรณาการ และการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสืบสวนขยายผลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวถึงผลประชุมผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่19/2560 วันนี้(10 ต.ค.) ประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจประชาชน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่1 คดีทุจริตจำนำข้าว ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมเคยมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ รายคดีนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยงกับพวก ไปแล้วจำนวน 9 ครั้ง รวมมูลค่า ทรัพย์สินประมาณ 13,000,000,000 บาท( หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาท)นั้น
ปรากฏว่าต่อมาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2560ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง(คดีหมายเลขดำที่ อม.25/2558)ได้มีคำพิพากษาว่านางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร บุตรสาวของนายอภิชาติ หรือเสี่ยเปี๋ยง ได้ร่วมกระทำผิดในคดีทุจริตจำนำข้าวดังกล่าวด้วย สำนักงาน ปปง.จึงทำการสืบสวนขยายผลทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมและตรวจพบว่านางสาวธันยพร ได้ปกปิดอำพรางทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด โดยให้บุคคลอื่นเข้ามาถือหุ้นในบริษัททีซีพร็อพเพอร์ตี้จำกัดแทนตน
ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในวันนี้ จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมอีกจำนวน 25 รายการ มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,300,000,000 บาท (สองพันสามร้อยล้านบาท ) จึงเป็นผลให้การอายัดทรัพย์สินในคดีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมประมาณ 15,300,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นห้าพันสามร้อยล้านบาท)
สำหรับเรื่องที่ 2 คดีทุจริตเงินทอนวัด จากการสืบสวนรวบรวมพยาน หลักฐานพบว่านายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกับพวก ซึ่งเป็นข้าราชการในสำนักงานและบุคคลใกล้ชิด ได้แก่ นางประนอม คงพิกุล นายสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ นางณัฐฐาวดี ตันตราวิสารสิทธิ นางชมพูนุท จันฤาไชย พระสุทธิพงศ์ สุทธิวังโส แสงสุข นายฐานพัฒน์ ม่วงทอง นายศิวโรจน์ ปิยรัตน์เสรี หรือพระเบิ้ม และนางสาวอุบล ดิษฐ์ด้วง ได้ร่วมกันกระทำการทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุดการบูรณปฏิสังขรณ์และการพัฒนาวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2555-2559 โดยมีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดวางแผนเป็นขั้นตอนและแบ่งหน้าที่กันทำ ในการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัดต่างๆเป็นเครื่องมือในการเทงบประมาณลงไป โดยเมื่อวัดได้รับเงินดังกล่าวก็จะโอนเงินสดมามอบให้นายนพรัตน์ หรือบุคคลใกล้ชิด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา3(5) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ กับพวกประกอบด้วยทรัพย์สิน จำนวนรวมทั้งสิ้น 33 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 71,939,017.91 บาท (เจ็ดสิบเอ็ดล้านเก้าแสนสามหมื่นเก้าพันสิบเจ็ดบาทเก้าสิบเอ็ดสตางค์)
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำนักงาน ปปง.จะมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผล เพื่อยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไปให้ถึงที่สุดตามมาตรการและขั้นตอนของกฎหมายฟอกเงิน ยืนยันทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน .-สำนักข่าวไทย