ทำเนียบฯ 3 ต.ค.-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่าจะประกาศวันเลือกตั้งในปีหน้า ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป หากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้วเสร็จ ก็นับไปอีก 150 วัน ก็จะสามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้
ส่วนที่มีการมองว่าหากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะทำให้เป็นปัจจัยในการเลื่อนการเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก สนช. และให้รอดูการพิจารณาของ สนช.
“ขออย่าคิดว่า คสช.อยากจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป ทั้งนี้จะอนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ภายหลังกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ส่วนผมไม่มีข้อห่วงใยใด ๆ และทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ไทยเข้าพบนั้น เมื่อสหรัฐฯ ถือเป็นประเทศมหาอำนาจ ก็ถือว่าสหรัฐฯ มีความเชื่อมั่น และประเทศอื่น ๆ ก็จะต้องมีความเชื่อมั่นไทยด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนข้อกังวลเรื่องการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กับทางสหรัฐฯ นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องการจัดซื้ออาวุธ ไทยมีการวางแผนไว้ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาบริหารงาน ซึ่งการซื้ออาวุธเป็นไปตามแผนงานและงบประมาณที่วางไว้ และเมื่อรัฐบาลนี้เข้ามา สหรัฐฯ ไม่ขายอาวุธให้กับไทย ดังนั้นต้องไปเจรจาจัดซื้อกับประเทศอื่น แต่ขณะนี้สหรัฐฯ จะนำกลับมาขายให้ไทย
“และพอกลับมาให้ซื้อได้ ก็เอาของเดิมกลับมา มีหลายอย่าง มีคนคอยโจมตีอยู่ เพราะว่าเราซื้ออาวุธมา มันเหลือชั่วโมงบินน้อยมาก เช่น เฮลิคอปเตอร์ รุ่น คอบร้า กันชิพ (เฮลิคอปเตอร์โจมตี) ยังไม่รู้รายละเอียก ซึ่ง ทบ.จะกำหนดสเปคตามงบประมาณที่ได้ แต่จะกำหนดระยะเวลาซื้อเมื่อใดนั้นไม่ได้ ซื้ออะไรก่อนหลังนั้นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของหน่วยงานนั้น ๆ จะเป็นผู้ดำเนินการ ทางรัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง รัฐบาลให้แต่งบประมาณที่หน่วยขอมา อันไหนให้ได้ก็ให้ อันไหนให้ไม่ได้ก็ไม่ให้” พล.อ.ประวิตร กล่าว.- สำนักข่าวไทย
