คนไทยถูกปฏิเสธเข้าเกาหลีใต้ยังไม่ลดลง

กรุงโซล เกาหลีใต้ 24 ก.ย. – เอกอัครราชทูตไทยประจำเกาหลีใต้เผยคนไทยถูกปฏิเสธเข้าเมืองยังไม่ลดลง ชี้การให้ขอวีซ่าไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เตือนแรงงานไทยควรเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย 


นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวถึงกรณีที่คนไทยถูกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ปฏิเสธเข้าประเทศเกาหลีใต้มากขึ้น ว่า ปัญหาคนไทยลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ยังคงมีต่อเนื่อง และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงประมาณ 2 เท่าในช่วง 3 ปี โดยปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้กว่า 100,000 คน และมากกว่าครึ่งเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้จะตรวจเข้มเรื่องคนลักลอบเข้าเมืองอย่างหนักก็ตาม ก็ยังมีคนไทยแอบเข้ามาทำงานโรงงานเก็บผลไม้อย่างผิดกฎหมาย ทำให้ประเทศเกาหลีใต้เข้มงวดในการตรวจสอบคนเข้าเมืองมากขึ้น เพราะไม่ต้องการให้จำนวนแรงงานผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น และป้องกันการเกิดปัญหาทางสังคม แม้ว่าแรงงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพยุงเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ก็ตาม


อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้เข้มงวดกับคนทุกชาติ เพราะไม่ใช่เฉพาะคนไทยที่ลักลอบเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย แต่ยังมีคนอีกหลายชาติที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเช่นกัน เนื่องจากมีแรงจูงใจสูงจากอัตราค่าจ้างสูงถึง 30,000 -40,000 บาทต่อเดือน ประกอบกับบทลงโทษของประเทศเกาหลีใต้ไม่รุนแรง คือ ถูกส่งกลับประเทศ และถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ทำให้คนไทยแฝงเข้ามาในรูปของนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ต้องขอวีซ่าและพำนักในเกาหลีใต้ได้ถึง 90 วัน ดังนั้น ขอฝากถึงคนไทยที่ต้องการเข้าทำงานที่เกาหลีใต้ ขอให้ทำตามขั้นตอน ต้องเข้ามาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย เพราะกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายจะไม่มีสิทธิในเรื่องต่าง ๆ เช่น การรักษาพยาบาล หากเจ็บป่วยต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเองซึ่งค่าใช้จ่ายแพงมาก  ดังนั้น จึงควรเข้ามาอย่างมีเกียรติและถูกต้อง

ส่วนประเด็นที่มีนักท่องเที่ยวไทยเสนอให้กลับมาขอวีซ่าในการเข้าประเทศเกาหลีใต้เหมือนเดิมเพื่อแก้ปัญหานี้นั้น มองว่าไม่คุ้มค่าและไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เพราะแต่ละปีมีคนไทยเดินทางมาเกาหลีใต้มากถึง 400,000-500,000 คน แต่พบคนที่ถูกห้ามเข้าเมืองเพียง 20,000 คนเท่านั้น ซึ่งจะกระทบต่อคนไทยจำนวนมาก ขณะที่การคัดกรองการพิจารณาของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ถือได้ว่ามีความเป็นระบบยุติธรรม และตรวจเช็คคนได้ค่อนข้างแม่นยำ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ได้กระทำผิดจึงไม่ต้องกลัว หากเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ขอตรวจสอบตัวตน โดยขอให้คนไทยที่ต้องการจะเดินทางมาท่องเที่ยวต้องเตรียมเอกสารทุกอย่างให้ครบและควรเตรียมเอกสารการสำรองที่พัก แผนการท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ข้อมูลการท่องเที่ยวที่สนใจ เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสามารถเรียกดูเอกสารหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย 24-25 ก.พ.68 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน-พายุฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. 68 ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก จะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท