ราชบุรี 21 ต.ค.- ผอ.โครงการฯ เขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เทิดทูนพระปรีชาสามารถยิ่งแก้ปัญหาดินเสื่อมโทรมจนเขียวขจีเป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสัตว์ กลายเป็นต้นแบบการจัดการดินของประเทศ
นายบุญช่วย ช่วยระดม ผู้อำนวยการโครงการศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า โครงการฯ เขาชะงุ้มกลายเป็นต้นแบบตัวอย่างการจัดการดินเสื่อมโทรมของประเทศจากพระปรีชาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสามารถพัฒนาที่ดินเสื่อมโทรม หลังจากเสด็จฯ เยี่ยมโครงการพื้นที่ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม จำนวน 3 ครั้ง เนื้อที่ประมาณ 869 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลาดเชิงเขาของเขาเขียว ดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทราย บ้างก็ปนหินปนกรวดและลูกรัง ทำให้ขาดแร่ธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์สำหรับการเจริญเติบโตของพืช นอกจากจะเป็นพื้นที่อับฝน มีปริมาณฝนเฉลี่ยต่อปีไม่เกิน 1,200 มิลลิเมตร ค่าเฉลี่ยจำนวนวันที่ฝนตกประมาณ 50 วันต่อปีเท่านั้น ต่อมาปี 2528 มีพระราชกระแสรับสั่งให้พัฒนาแหล่งน้ำเป็นที่ปลูกไม้ยืนต้นให้มีความชุ่มชื้นและให้ศึกษาการปรับปรุงที่ดินเสื่อมโทรมอย่างหนัก โดยวิธีการเสริมแหล่งน้ำ ปรับปรุงแก้ไขปัญหาลูกรังและจัดระดับให้เหมาะสมเพื่อให้มีน้ำใช้
นายบุญช่วย กล่าวว่า แนวพระราชดำริพระราชทานการแก้ไขดินเสื่อมโทรมในพื้นที่แห้งแล้งเห็นได้ชัดว่าทรงเน้นการสร้างความชุ่มชื้นแก่ดิน การหาแหล่งน้ำเป็นปัจจัยหลักประการแรกที่ต้องดำเนินการ เมื่อมีน้ำก็ย่อมปลูกต้นไม้ได้ ความชุ่มชื้นก็จะตามมาในที่สุด จากสภาพพื้นที่ที่แร้นแค้น แห้งแล้ง ดินเลว ที่มีแต่หินและลูกรังแทบจะไม่มีพืชพรรณเจริญเติบโต ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ขณะนี้ถูกปกคลุมไปด้วยไม้ป่านานาพันธุ์มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าสามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้
นายบุญช่วย กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีดินตื้นและดินลูกรังจำนวนมาก เฉพาะราชบุรีมีประมาณ 230,078 ไร่ กาญจนบุรี 529,396 ไร่ เพชรบุรี 380,146 ไร่ ประจวบคีรีขันธ์ 145,704 ไร่ ที่หน่วยงานได้นำแนวทางจากโครงการฯ ไปเป็นต้นแบบการพัฒนาพื้นที่ด้วยแนวพระราชดำริของพระองค์ จึงทำให้พื้นดินที่แห้งแล้งเสื่อมโทรมกลับมาเขียวขจีมีความอุดดมสมบูรณ์อีกครั้ง ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานแก่ผู้สนใจ.-สำนักข่าวไทย