ศรีสะเกษ 19 ก.ย.-ชุลมุนขณะผู้กองเหน่งเดินทางมารายงานตัวที่ สภ.กันทรลักษ์ ด้านสามี ผอ.อ้อย บอก “คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
วันที่ 19 กันยายน 2560 เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อยเอกศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง อายุ 30 ปี ตำแหน่ง ผบ.ร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับการหายตัวไปของนางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือผอ.อ้อย ที่ขณะนี้หายตัวไปร่วม 78 วันแล้ว เดินทางมาพร้อมด้วยนายทหารพระธรรมนูญ ด้วยรถตู้ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 6374 กงจักร ของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ( ร.6 พัน 2 ) เพื่อเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อเข้ารายงานตัวเป็นครั้งที่ 3
เมื่อผู้กองเหน่งเดินลงมาจากรถ ก็เกิดความชุลมุนขึ้นเนื่องจากบรรดาญาติและผู้ที่มาให้กำลังใจต่างก็ตะโกนสาปแช่งด่าทอด้วยความโกรธเคือง พร้อมทั้งชูป้ายกระดาษที่เขียนคำต่างๆ และกรูกันเข้าไปต่อว่าร้อยเอกศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่งอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังกันมวลชนชาวบ้านให้ออกห่าง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ชุลมุลที่อาจจะได้รับบาดเจ็บทุกฝ่าย ก่อนนายทหารพระธรรมนูญพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำร้อยเอกศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง เดินขึ้นไปยังบริเวณชั้นสองของอาคารสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ เพื่อรายงานตัว
ขณะที่ นายบุญเลิศ และนางแหลม อุ่นอ่อน บิดาและมารดา พร้อมด้วยนายวิทยา เกษแก้วสามีและญาติๆ จำนวนกว่า 50 คน ก็ได้เดินทางมารอพบร้อยเอกศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง กันตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ได้มีการทำป้ายกระดาษเขียนพร้อมเขียนข้อความต่างๆ เช่น “ชายชาติทหารกล้าทำต้องกล้ารับ” “ผอ.อ้อยอยู่ไหน” “เอาผอ.อ้อยคืนมา” พร้อมด้วยมีการนำดอกไม้สด ดอกไม้จันทน์ นำมาเรียกร้องหาหมอดูหมอเหน่งที่จะเป็นคนเดียวที่จะแม่นที่สุดและบอกมาได้ผอ.อ้อยอยู่ที่ไหน เรียกร้องให้ร้อยเอกศุภชัย ภาโส ยอมรับสารภาพว่านำ ผอ.อ้อย ไปซ่อนไว้ที่ใด
ด้านนางแหลม อุ่นอ่อน มารดาของ ผอ.อ้อย ยังได้เดินทางมาดูรถเก๋งของลูกสาวที่จอดคลุมผ้าไว้ ก็ถึงกับร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจว่าเห็นแต่เพียงรถแต่คนอยู่ที่ไหน ก่อนจุดธูปและเอ่ยเรียกว่าหาดวงวิญญาณของ ผอ.อ้อยว่าหากรับรู้และอยู่ที่ไหนก็ขอให้กลับมากลับบ้านไปด้วยกัน เดินทางกลับบ้านด้วยกัน ตรงบริเวณหน้าเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอน ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์ของ ผอ.อ้อย
ทั้งนี้นายวิทยา เกษแก้ว สามี ผอ.อ้อย เผยว่าผู้กองเหน่งไม่ใช่ลูกผู้ชายไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย เพราะตนเองนั้นได้เคยพูดคุยกับผู้กองเหน่งแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วง ผอ.อ้อยหายไปใหม่ๆ แต่จากการพูดคุยและหลักฐานที่พบมันไม่ตรงกัน ซึ่งจากการพูดคุยนั้น ผู้กองเหน่งบอกว่าไม่เคยพบกับ ผอ.อ้อย ในวันที่ 3 ก.ค.60 คือวันที่หายตัววันแรก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากหลักฐานพบว่าไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้กองเหน่งพูด ซึ่งแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ในส่วนการตามหานั้นตนและญาติๆ ก็ยังคงมีความหวังว่าสักวัน จะต้องพบ ผอ.อ้อย ผู้เป็นภรรยา โดยตนเชื่อว่าผู้ที่รู้ดีที่สุดในการหายตัวไปของ ผอ.อ้อย ก็คือผู้กองเหน่ง แม้ขณะนี้ตนเองก็ไม่ยอมรับว่า ผอ.อ้อยได้เสียชีวิตแล้ว ตนเองยังมีความหวังว่าจะพบตัว ถ้าหากเสียชีวิตก็ต้องพบร่าง
ด้าน พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ เดินทางรอบที่สองเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่หายตัวไปนานกว่าสองเดือนครึ่ง
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางเราได้เร่งรัดคดีให้ได้ดีและเร็วที่สุด โดยพนักงานสอบสวนของเรานอกจากจะทำสำนวนคดีแล้ว ยังต้องลงพื้นที่สืบสวนอีก ส่วนความมั่นใจในการทำสำนวนคดีส่งศาลทางเรายังคงได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องสงสัยเพียง 4 ข้อหา เหมือนเดิม ยังไม่ได้มีการตั้งข้อหาเพิ่มเติม แต่ตอนนี้เราได้เร่งให้หลักฐานข้อมูลเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุดก่อน ส่วนจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมหรือยังนั้นคงต้องก็พยาน หลักฐานที่เรามีอยู่ก่อน
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนการสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการนั้นในส่วนที่ตั้งข้อหานั้นก็สามารถส่งสำนวนฟ้องศาลได้เลย ซึ่งคดีนี้ทางตำรวจไม่หนักใจในการทำคดีนี้ เพราะทำคดีนี้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย