อยุธยา 19 ก.ย.-นายกฯ นำ ครม.ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป นั่งรถรางชมอุทยานประวัติศาสตร์ ย้ำ ครม.ใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก และให้รับฟังความเห็นของประชาชน พร้อมนำมาปรับให้สอดคล้องกับการทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี พร้อมชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป บริเวณหน้าวัดมหาธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล และถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีนั่งรถรางเยี่ยมชมมรดกโลก บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและลั่นกลองสบัดชัย เปิดตลาดกรุงศรี ที่ย้ายผู้ค้าจากวิหารพระมงคลบพิตร 168 ร้านค้า มาไว้ตรงจุดนี้ เพื่อลดความแออัด โดยนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชม ชิมอาหารที่ขายในบริเวณตลาด และทักทายพ่อค้าแม่ค้าอย่างเป็นกันเอง รวมถึงรับฟังลำตัดจากนางขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่อาคาร 100 ปี ศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงต้น ว่า เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังพบหลายปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่อยากแจ้งให้คณะรัฐมนตรีรับทราบว่าต่อจากนี้ไป จะมีนโยบายเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้ในปี 2560 หรือ 2561 ซึ่งในช่วงวาระการพิจารณาตอนท้าย ที่เป็นเรื่องการเสนองบประมาณ จะมอบนโยบายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินจำนวนนี้กับโครงการที่สามารถดำเนินการได้ทันที หรือยังไม่สามารถดำเนินการได้ หรือไม่สามารถทำได้ทันตามกรอบเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะอนุมัติให้ทำเฉพาะที่ทำได้เท่านั้น โดยจะแบ่งโครงการใหญ่ออกเป็นโครงการย่อย ให้คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยเป็นสำคัญ
“และขอให้รัฐมนตรีที่รับฟังความเห็นของประชาชนนำแนวคิดของประชาชนมาปรับ ให้สอดคล้องกับการทำงาน เพราะข้อมูลบางอย่างที่รัฐบาลพยายามนำเสนอ ประชาชนบางส่วนยังเข้าไม่ถึง หรือยังไม่เข้าใจทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องสร้างเรื่องความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้น เช่น โครงการที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน เป็นต้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

