คสช.กำชับทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพให้ดี

กองทัพบก 18ก.ย.- คสช.กำชับทุกหน่วยทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ อย่างดีที่สุด ชื่นชมหน่วยงานที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย


พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า วันนี้ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการคสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคสช. โดยได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดตามที่รัฐบาลได้มอบหมาย  โดยเฉพาะการจัดริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ  การทำงานในส่วนของกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สนามหลวง การจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง 9 แห่งใน กทม. และในอีก 76 จังหวัด และการจัดเตรียมพื้นที่ให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ โดยให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนเพื่อให้การเตรียมความพร้อมในงานพระราชพิธีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ  

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ รองเลขาธิการคสช.ได้กล่าวชื่นชมหน่วยงานในระดับพื้นที่ได้ร่วมกันเข้าช่วยเหลือดูแลประชาชนได้อย่างรวดเร็วและตรงกับความเดือดร้อน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเส้นทางสัญจรในพื้นที่น้ำท่วม  จึงขอให้ดำรงการช่วยเหลืออุทกภัยอย่างเต็มที่ สำหรับการส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากส่วนกลาง ก็มีความพร้อมทั้งเรื่องยุทโธปกรณ์และเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย        


พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า  รองเลขาธิการคสช. ยังได้กล่าวถึงการทำงานในช่วงต่อไป ที่ยังคงต้องให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและคสช.อย่างเข้มแข็ง พร้อมชี้แจงข้อมูลความคืบหน้าในมาตรการและนโยบายของรัฐให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในเรื่องการปรับโครงสร้างภาษี สุรา ยาสูบ ซึ่งสังคมให้ความสนใจ ขอให้ร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงการตรวจสอบและเฝ้าระวังมิให้มีการกักตุนสินค้าที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้บริโภคด้วย อย่างไรก็ตามในห้วงเวลาต่อจากนี้ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางสังคมในทุกมิติ การตัดสินคดีความสำคัญ การออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง  รวมทั้งการดูแลสร้างความปลอดภัย 

“รองเลขาธิการคสช. กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ติดตามข้อมูลและพร้อมชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจในทิศทางที่ถูกต้อง รวมทั้งการขอความร่วมมือภาคประชาชน  ภาคสังคมในการเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ กำชับให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเป็นไปด้วยความรอบคอบโปร่งใสและตรวจสอบได้” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย