ทำเนียบฯ 15 ก.ย.- นายกฯ ระบุ เหตุระเบิดในพื้นที่ อ.ยะหา ล่าสุด เป็นการลอบทำร้าย กำชับเจ้าหน้าที่ใช้ยุทธวิธีทางทหารเข้มขึ้นในพื้นที่ พร้อมปิดกั้นพื้นที่เมื่อเกิดเหตุ ห่วงคนที่ชอบมุ่งดูเหตุการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.ยะหา จะยะลา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลทำให้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้น แต่ฝ่ายตรงข้ามก็พยายามทำให้สถานการณ์แย่ลง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่าจะมีคนจำนวนหนึ่ง ต้องการให้รัฐบาลใช้มาตรการรุนแรงกับกลุ่มคนเหล่านี้ แต่รัฐบาลจะใช้การบังคับใช้กฎหมาย เพราะการใช้กำลังทหารเข้าไปกวาดล้าง เป็นเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ เว้นแต่จะเป็นช่วงที่มีการสู้รบ และว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการลอบทำร้าย จึงกำชับให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะเรื่องทางเทคนิค ยุทธวิธี เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ยุทธวิธีทางทหารให้เข้มงวดขึ้นในการเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่
“ผมเป็นห่วงคนที่ชอบไปมุงดูเหตุการณ์ ผมได้สั่งการให้ปิดกั้นพื้นที่เมื่อเกิดเหตุ ไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง และสื่อเข้าไปในพื้นที่ หากมีผู้ไม่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บ จะถือเป็นความบกพร่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า การทำงานในสถานการณ์จริง เจ้าหน้าที่ต้องมีสมาธิ หากมีคนไม่เกี่ยวข้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่ อาจทำให้เสียสมาธิ และมีความสูญเสียเพิ่มขึ้น
ส่วนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดำเนินการอยู่ แต่จะให้สถานการณ์ทั้งหมดยุติลง คงไม่สามารถทำได้ ตราบใดที่คนยังไม่เปลี่ยนความคิด แต่สามารถทำให้เหตการณ์ต่างๆ ลดลงเหลือน้อยที่สุดได้ แต่จะต้องไม่มีการบิดเบือนข้อมูล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการในพื้นที่ภาคใต้ คือ การสร้างการพัฒนาและการลงทุน แต่นักลงทุนยังมีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคง ดังนั้น อาจต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นมากกว่านี้ ขณะที่ การกำหนดเหตุพื้นที่ความปลอภัย (Safety Zone) ยังไม่สามารถประกาศได้ เพราะฝั่งที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือ จึงขอความเห็นใจ อย่าโทษเจ้าหน้าที่อย่างเดียว เพราะต้องได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่าย .- สำนักข่าวไทย