ประจวบคีรีขันธ์ 14 ก.ย.- นักโบราณคดีศิลปากรที่ 1 ลงพื้นที่ประจวบฯ นำทีมพิสูจน์ปืนใหญ่โบราณขุดพบในคลองบางสะพาน คาดอายุ 200 ปี สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นใช้ทำศึก พร้อมขยายผลดินแดนประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดทองนพคุณชั้นเยี่ยม
น.ส.กรรณิการ์ เปรมใจ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักงานศิลปากรที่ 1 ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ และนายกฤษดา หมวดน้อย กรรมการสภาวัฒนธรรม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมตรวจสอบปืนใหญ่โบราณน้ำหนัก 1.2 ตัน ความยาว 2.10 เมตร เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางส่วนโคนประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนปลายประมาณ 20 ซม. ถูกนำมาไว้ที่ สภ.ย่อยกำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน หลังจากเจ้าหน้าที่ชลประทานขุดลอกคลองบางสะพาน ตามโครงการบรรเทาอุกภัย อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพบปืนใหญ่โบราณบริเวณปากคลองบางอะ หมู่ 8 ต.แม่รำพึง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบปืนมีสนิม ทำให้ไม่พบตราสัญลักษณ์ที่มาของปืนใหญ่เช่นเดียวกับปืนใหญ่ที่พบในบริเวณป้อมปืนปากแม่น้ำที่ จ.สมุทรปราการ โดยมีเพียงร่องรอยของเลขยันต์ลงอักขระคล้ายเลข ๙ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผลิตในประเทศหรือเป็นปืนใหญ่ที่สั่งนำเข้า สำหรับปืนใหญ่ที่จมในคลองบางสะพานสันนิษฐานว่าเป็นปืนใหญ่ที่มีอายุประมาณ 200 ปี สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นสำหรับยิงข้าศึกป้องกันหัวเมืองบางสะพาน ภายหลังมีศึกสงครามต่อเนื่องกับประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเชื่อมโยงกับด่านสิงขร เมืองตะนาวศรี มะริด และทวาย
น.ส.กรรณิการ์ คาดว่าจุดที่พบปืนเป็นพื้นที่มีเหตุเรือล่ม ไม่ใช่พื้นที่ตั้งป้อมเพื่อยิงปืนใหญ่ และการตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบคลองบางสะพานยังไม่พบวัตถุโบราณประเภทอื่น โดยทีมนักวิชาการมีแผนในการสำรวจบริเวณที่เป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณของหัวเมืองบางตะพานหรือเมืองกำเนิดนพคุณที่มีชื่อเสียงเรื่องทองบางสะพานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากนั้นจะแจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์มาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อป้องกันปืนเสียหายจากสภาพปัจจุบัน และตามหลักการจะต้องนำปืนใหญ่ไปเก็บอนุรักษ์ไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ จ.ราชบุรี.-สำนักข่าวไทย