สงขลา 13 ก.ย. – หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จ.สงขลา สั่งปิดให้บริการน้ำตกโตนงาช้าง เป็นเวลา 3 วัน หลังฝนและลมถล่มพื้นที่บริเวณที่ทำการเขตฯ อย่างหนักวานนี้ และมีต้นไม้หักโค่นกว่า 40 ต้น เสียหายหนักสุดในรอบ 39 ปี พร้อมเร่งเคลียร์พื้นที่และสำรวจความเสียหาย
นายอิศราพันธ์ บุญมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง พร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เร่งตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ภายในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและลมกระโชกแรง ช่วงเวลา 16.30 น. โดยในเวลาเพียง 5 นาที ส่งผลให้ต้นไม้ภายในเขตฯ ล้มระเนระนาดเสียหายรวม 44 ต้น ในจำนวนนี้เป็นไม้มีค่าเนื้อแข็งถึง 8 ต้น อาทิ ยมหอม ไม้พะยอม หลุมพอ มะกล่ำ อินทนิล กระแซะ ซึ่งจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่ในช่วงเช้าวันนี้ พบความเสียหายทั้งหมดเกิดขึ้นในบริเวณชั้น 1 ของน้ำตกโตนงาช้าง ส่วนบริเวณน้ำตกชั้น 2-7 ยังไม่พบความเสียหาย และบริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง มีต้นไม้ล้มโค่นทับอาคารได้รับความเสียหายบางส่วนรวม 6 หลัง โดยเฉพาะบริเวณป้ายประชาสัมพันธ์ ห้องน้ำบ้านพัก และป้อมจุดตรวจ ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ขณะที่ต้นไม้บางส่วนล้มโค่นลงในบริเวณน้ำตก แต่ขณะเกิดเหตุไม่มีนักท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าว ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน ในการสำรวจความเสียหายและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น นับตั้งแต่ก่อตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เมื่อปี 2521 หรือ 39 ปีมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เมื่อเทียบกับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และต้นไม้ส่วนใหญ่ล้มลงในทิศทางที่ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวอาคารสถานที่มากนัก เป็นผลมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพื้นที่ในบริเวณนี้ ทั้งทวดตาขุนดำ ที่เพิ่งอัญเชิญมาตั้งบูชา เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา และทวดโต๊ะปะหวัง ที่อยู่คู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างมายาวนาน. – สำนักข่าวไทย