พระนคร 11 ก.ย.-ที่ประชุมฯเห็นชอบ 1-30 พ.ย.นี้ เปิดให้ประชาชนเข้าชม ‘พระเมรุมาศ-พระที่นั่งทรงธรรม-ศาลาลูกขุน-ทับเกษตร’ คาดวันละ 1 แสนคน พร้อมจัด shuttle bus รับส่ง
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ครั้งที่ 2/2560 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงคมนาคม สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 1-30พ.ย.2560 เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ เวลา 07.00-22.00 น.แบ่งเป็นพระเมรุมาศ , พระที่นั่งทรงธรรม,ศาลาลูกขุน และทับเกษตร ซึ่งพระที่นั่งทรงธรรมจัดแสดงเนื้อหาพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ เรื่องราวโครงการพระราชดำริของในหลวง ร.9
ส่วนศาลาลูกขุนจัดแสดงเนื้อหาการจัดสร้างพระเมรุมาศ ประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ พระโกศจันทน์ พระบรมอัฐิ ส่วนทับเกษตรจัดแสดงเนื้อหาพระเมรุมาศจำลอง ประติมากรรมจำลองสำหรับผู้พิการทางสายตาสามารถจับต้องสัมผัสได้ พร้อมเสียงบรรยายในขณะเข้าชม
ทั้งนี้ นอกจากเทคโนโลยี AR CODE มาใช้เพื่อความสะดวกในการเข้าชมนิทรรศการฯพร้อมทำเส้นทางรองรับผู้พิการตาบอดและนั่งวิลแชร์ให้สามารถเข้าชื่นชมความงดงามได้เช่นเดียวกับคนปกติ ทางคณะอนุกรรมการฯจัดทำแผ่นพับภาษาไทย จำนวน 3 ล้านฉบับ รวมทั้งภาษาอังกฤษและจีน อยู่ระหว่างรอสรุปจำนวนพิมพ์
ส่วนการเปิดเข้าชมนิทรรศการ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าชมวันละ 1 แสนคน แบ่งการจัดการให้เข้าชมครั้งละ 500 คน จัดกลุ่มเป็นประชาชนทั่วไป , ผู้พิการ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจัดรถ Shuttle Bus อำนวยความสะดวก รับ-ส่งประชาชนจากจุดต่างๆ อาทิ BTS และ MRT
นอกจากนี้กองทัพเรือจัดเรือรับส่งประชาชนจากฝั่งธนบุรีจากหอประชุมกองทัพเรือมายังท่าราชวรดิษฎ์ ท่าช้าง
ส่วนการแต่งกายเข้าชมนิทรรศการนั้น เนื่องจากไม่ได้เป็นช่วงไว้ทุกข์ ดังนั้น อาจขอให้เป็นชุดสุภาพ ซึ่งจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทั้ง 5 ชุด ซึ่งมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมดร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร .-สำนักข่าวไทย