รัชดาภิเษก 11 ก.ย.-ในงานกรมการศาสนา ประชุมติดตามขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ น้อมนำหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้กับองค์กร ‘มานัส ทารัตน์ใจ’ เปิดใจ พร้อมรับตามคำสั่ง หลัง ครม.มีมติเป็น ผอ.พศ.คนใหม่ แทน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์
นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องติดตามการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณ ธรรมแห่งชาติพร้อมบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรมในองค์กร มีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ผู้แทนคณะอนุกรรมการระดับกระทรวง ระดับจังหวัด ผู้แทนองค์กรอิสระและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมฟังและระดมความคิดเห็น จำนวน 180 คน
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน เพื่อติดตามการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมการศาสนาและศูนย์คุณธรรม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ เห็นความสำคัญของทุกภาคส่วนในการนำแผนแม่บทฯไปใช้ขับเคลื่อนภายในองค์กรต่างๆ มุ่ง เน้นให้ทุกจังหวัด ทุกชุมชน ร่วมกันส่งเสริมคุณธรรมให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ พร้อมน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ “ระเบิดจากข้างใน” ซึ่งพระองค์ทรงมุ่งเน้นการพัฒนา
คน ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือราษฎรตามความจำเป็นและเหมาะสม รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐ มนตรี ได้น้อมนำหลักคิดดังกล่าวมุ่งพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้คุณธรรมนำการพัฒนา คาดหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นประ โยชน์แก่ทุกภาคส่วน
ด้านพลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่ บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณ ธรรมให้กับประชาชนในชุมชนต่างๆ ยังไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร บางกิจ กรรมเข้าไม่ถึงประชาชน หลายสิ่งที่ส่งเสริมไป ได้ผลตอบรับไม่ตรงตามเป้าหมาย คนในพื้นที่สับสน ทำให้ต้องกลับมาคิดและวางแผนกันใหม่ ต้องสร้างความเชื่อและความเข้าใจให้กับประชาชน หลังจากนี้ต้องระดม ความคิดเพื่อให้กิจกรรมเป็นไปตามเป้าหมาย เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุดการน้อมนำหลักการทรงงาน “ระเบิดจากข้างใน” มาใช้นั่นคือทำให้ชุมชน หมู่บ้านมีความเข้มแข็งก่อน และค่อยๆพัฒนาสู่สังคม ระเบิดจากข้างในหมายถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องเกิดจากความคิด ความรู้ ความต้องการจากภายในเป็นแรงผลักดันด้วยตนเอง ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะช่วยให้ความคิดเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายมานัสถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) คนใหม่ แทนพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ว่า สำหรับตน เป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะอย่างไร พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย แต่ขณะนี้ขอไม่พูดใดๆ รอการโปรดเกล้าฯคำสั่งอย่างเป็นทางการ
สำหรับนายมานัส ปัจจุบันอายุ 59 ปีจะเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค.2561จบการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิต มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ สาขา Master of Arts (Sociology) University of Poona สาธารณรัฐอินเดีย ,เคยตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม, รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และตำแหน่งล่าสุด คืออธิบดีกรมการศาสนา ซึ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อเดือน ต.ค.2559 รวมเวลา 11 เดือน .-สำนักข่าวไทย