คาดเงินบาทแข็งค่าได้อีก อาจแตะ 33.00 บาท/ดอลลาร์ฯ


กรุงเทพฯ 9 ก.ย.-ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินสัปดาห์หน้า
หุ้นไทยอาจไปต่อ และ เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าอีก อาจแตะ
 33.00-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ  ติดตามเงินทุนไหลเข้าและผลกระทบการทดลองอาวุธของเกาหลีเหนือ


 

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา
(4-8 ก.ย.) เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 33.05 บาทต่อดอลลาร์ฯนับเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ
2 ปี 5 เดือน  เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียในภาพรวม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากทิศทางเงินหยวนที่แข็งค่า
ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนของช่วงเวลาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
หรือเฟด
และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่ยังมีประเด็นตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ
และเกาหลีเหนือ

 


นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยหนุนจากกระแสฟันด์โฟลว์  เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย
3.4 พันล้านบาท และ 6.6 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
โดยในวันศุกร์
(
8 ก.ย.)
เงินบาทอยู่ที่
33.09
บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 33.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า
(
1
ส.ค.)

 

ด้านดัชนีหุ้นไทย
(
SET)  ปิดที่ระดับ 1,635.61 เพิ่มขึ้น
1.60% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 1.58%
จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 56,818.38 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์
mai ปิดที่ 560.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.85%
จากสัปดาห์ก่อน
 โดยหุ้นไทยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่
1
,647.54 จุด ช่วงปลายสัปดาห์

 

สัปดาห์ถัดไป
(11-15 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่
33.00-33.20
บาทต่อดอลลาร์ฯ
 ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด
มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,6
25 และ 1,615 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,660 จุด ตามลำดับ  โดยอาจต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ
และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี (ในช่วงระหว่างวันชาติของเกาหลีเหนือ)
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต
ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย.
นอกจากนี้
นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

กรุงเทพฯ 9 ก.ย.-ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินสัปดาห์หน้า
หุ้นไทยอาจไปต่อ และ เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าอีก อาจแตะ
 33.00-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ  ติดตามเงินทุนไหลเข้าและผลกระทบการทดลองอาวุธของเกาหลีเหนือ

 

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา
(4-8 ก.ย.) เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 33.05 บาทต่อดอลลาร์ฯนับเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ
2 ปี 5 เดือน  เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียในภาพรวม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากทิศทางเงินหยวนที่แข็งค่า
ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนของช่วงเวลาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
หรือเฟด
และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่ยังมีประเด็นตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ
และเกาหลีเหนือ

 

นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยหนุนจากกระแสฟันด์โฟลว์  เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย
3.4 พันล้านบาท และ 6.6 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
โดยในวันศุกร์
(
8 ก.ย.)
เงินบาทอยู่ที่
33.09
บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 33.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า
(
1
ส.ค.)

 

ด้านดัชนีหุ้นไทย
(
SET)  ปิดที่ระดับ 1,635.61 เพิ่มขึ้น
1.60% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 1.58%
จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 56,818.38 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์
mai ปิดที่ 560.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.85%
จากสัปดาห์ก่อน
 โดยหุ้นไทยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่
1
,647.54 จุด ช่วงปลายสัปดาห์

 

สัปดาห์ถัดไป
(11-15 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่
33.00-33.20
บาทต่อดอลลาร์ฯ
 ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด
มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,6
25 และ 1,615 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,660 จุด ตามลำดับ  โดยอาจต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ
และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี (ในช่วงระหว่างวันชาติของเกาหลีเหนือ)
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต
ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย.
นอกจากนี้
นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น