ภูมิภาค 23 ต.ค.- อุตรดิตถ์จัดนิทรรศการตามรอยเสด็จเมืองลับแล 115 ปี พร้อมอัญเชิญพระบรมรูปหล่อจำลอง ร.5 ทรงจอมทัพสยามให้ประชาชนสักการะ ขณะที่พสกนิกรหลายจังหวัดร่วมถวายพวงมาลาน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณทรงประกาศเลิกทาสและพัฒนาประเทศเจริญรุ่งเรือง
พระวินัยสาทร เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ อัญเชิญพระบรมรูปหล่อจำลองพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 “พระปิยมหาราช” หรือ “พระพุทธเจ้าหลวง” ตั้งไว้ภายในวิหารหลวงวัด เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะกราบไหว้ น้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณ ทรงสร้างคุณอนันต์ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศชาติ และรอยย้อนประวัติศาสตร์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือและเมืองอุตรดิตถ์ โดยได้เสด็จฯ มานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2444 หรือเมื่อ 115 ปีที่ผ่านมา
พระวินัยสาทร กล่าวว่า องค์พระบรมรูปหล่อจำลอง ร.5 จัดทำด้วยเนื้อทองสำริด ประทับยืนบนฐานรองรับ ฉลองพระองค์ในชุดจอมทัพสยาม ขนาดความสูงขององค์ 59 เซนติเมตร น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ได้เก็บรักษาเป็นอย่างดีเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากมีเพียง 9 องค์เท่านั้นที่จัดสร้างพร้อมกับพระบรมรูปทรงม้า ที่ประดิษฐานหน้าพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร ถือเป็นความล้ำค่ายิ่งไม่สามารถประเมินได้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าสักการะได้ตั้งแต่วันที่ 23-24 ตุลาคมนี้ และวัดยังจัดงานรำลึกย้อนประวัติศาสตร์ 115 ปี “สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จพระแท่นศิลาอาสน์” โดยมีนิทรรศการประวัติศาสตร์การแสดงศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น ขบวนอัญเชิญเครื่องอิสริยยศพร้อมพระบรมรูปจำลองจากท่าน้ำริมน้ำน่าน ครั้งเมื่อพระองค์เสด็จจนถึงวัดพระแท่นศิลาอาสน์
ขณะเดียวกันหลายจังหวัดประกอบพิธีถวายบังคมวางพวงมาลา เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม มีทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมข้าราชการประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างเนืองแน่น ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณทรงพัฒนาสยามประเทศเจริญก้าวหน้ามากมาย อาทิ การเลิกทาส การปฏิรูประเบียบบริหารราชการแผ่นดิน การศึกษา การประปา การไฟฟ้า โทรเลข และโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังทรงโปรดการเสด็จประพาสต้น เพื่อทราบถึงความเป็นอยู่ของราษฎรในแต่ละพื้นที่
ที่ จ.ชลบุรี นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอสัตหีบ พร้อมประชาชนทุกหมู่และส่วนราชการ 40 หน่วยงาน ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะต่อหน้าองค์พระบรมรูป หน้าที่ว่าการอำเภอสัตหีบ ซึ่งวันที่ 23 ตุลาคม 2559 เป็นวันครบรอบ 106 ปี เสด็จสวรรคต
เช่นเดียวกัน จ.พิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด นำข้าราชการทุกสังกัดกระทรวงทบวงกรมและประชาชน ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงนานับประการ พสกนิกรอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา
ส่วนภาคใต้ นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง โดยมีข้าราชการประชาชนร่วมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณทรงมีต่อปวงชนทั่วหล้า
ขณะที่นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รวมทั้งข้าราชการประชาชนทุกสาขาอาชีพประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ที่ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 ต.คลองขุด อ.เมือง โดยทุกคนต่างเปี่ยมล้นด้วยความกตัญญูกตเวทิตาและน้อมรำลึกที่พระองค์เสด็จฯ ประพาสหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันตก เมื่อปี ร.ศ.109 ก่อนเสด็จไปยังเกาะลังกาวี ซึ่งขณะนั้นเป็นมณฑลหนึ่งของสยาม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ผ่านเกาะตะรุเตา ทรงประทับแรมบนเรือพระที่นั่ง ด้านตอนเหนือ 1 คืน ทรงสนพระทัยและประจักษ์แจ้งด้วยพระเนตรอันยาวไกลในการพัฒนาจนเกิดความอุดมสมบูรณ์ทั้งภูเขา ชายหาด ถ้ำ น้ำตก ปะการัง สัตว์น้ำ กระทั่งปี 2525 องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโกได้ประกาศให้เกาะตะรุเตาเป็นมรดกอาเซียน
ด้านนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมส่วนราชการ ภาคเอกชน และชมรมต่าง ๆ นำพวงมาลา 129 พวง ร่วมถวายราชสักการะและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณเบื้องหน้าพระบรมราชานุสรณ์รัชกาลที่ 5 พร้อมกันนี้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ได้จัดให้มีการประกวดพวงมาลาประเภทสวยงามและประเภทความคิดสร้างสรรค์ ปรากฏมีหน่วยงานต่าง ๆจัดส่งเข้าประกวดจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย