รัฐสภา 5 ก.ย.- ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยันเขียน กฎหมายลูกให้กรรมการในองค์กรอิสระอยู่หรือไปตามรัฐธรรมนูญ แต่หากสนช. ปรับเปลี่ยนให้อยู่ต่อก็ไม่สามารถค้านได้เพราะศาลรัฐธรรมนูญชี้แล้วว่าไม่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้ผู้ตรวจอยู่ครบวาระไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญชี้มาเช่นนี้ ก็สามารถเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลให้องค์กรอิสระอื่นอยู่ต่อได้ โดยไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติ แต่ในส่วนของ กรธ. ยืนยันว่าหากองค์กรใดไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ก็จะให้กรรมการในองค์กรที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่จะพิจารณา หากปรับแก้ กรธ. ก็ต้องยอมรับเพราะศาลรัฐธรรมนูญชี้แล้วว่าไม่ขัดกับเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ และที่ผ่านมา กรธ. เขียนกฎหมายให้เซ็ตซีโร่เพียงองค์กรเดียวคือ กสม. เพราะมีเรื่องโครงสร้างที่เปลี่ยนไป
นายมีชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต. บอกว่าพร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคมปีหน้า ว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับไม่ออกมา จึงยังไม่มีใครบอกได้ว่าพร้อมหรือไม่ เพราะยังไม่รู้ว่าใครต้องทำอะไร อย่างไร ดังนั้นเมื่อกฎหมายออกมาแล้ว ค่อยมาบอกว่าพร้อม แต่ในส่วนของ กรธ. ยืนยันว่าจะยกร่างให้เสร็จตามกำหนดเวลา 240 วัน
ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า การยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระ ทางกรธ. จะพิจารณาว่าโครงสร้างของกรรมการเปลี่ยนหรือไม่ หากโครงสร้างไม่เปลี่ยนก็จะให้ กรรมการที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญสามารถอยู่ทำหน้าที่ต่อไปได้ แต่การที่จะให้กรรมการ ในองค์กรอิสระอยู่หรือไป ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสนช. จะพิจารณา ซึ่งมีสิทธิ์เขียนไว้ในบทเฉพาะกาล ให้อยู่ ทำหน้าที่ต่อไปจนครบวาระได้โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติ แต่การจะแก้อย่างไร ก็จะต้องมีเหตุผลที่มากพอ
“ถ้าคุณสมบัติขาดแล้วจะอาศัยบทเฉพาะกาลเขียนให้อยู่ต่อ ถ้าเป็นแบบนี้ก็เขียนได้ แต่ก็ต้องถามว่าสามัญสำนึกควรทำหรือไม่ ผมว่ามัน ไม่ควรทำ เพราะถ้าเค้าบอกว่าต้องการคนสูง 180 มาเล่นบาส แต่ที่ผ่านมา 160 แล้วจะเอาคนเก่ามา ทู่ซี้เล่นให้หมดเกมส์ทั้งที่มีโอกาสเอาเครื่อง 180 มาเล่นผมว่ามันไม่ใช่”นายชาติชาย กล่าว.-สำนักข่าวไทย