สองกู้ภัยชกต่อยหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล

สระบุรี 4 ก.ย.-สองกู้ภัย จ.สระบุรี ชกต่อยหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ขณะกำลังส่งคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่และคนไข้ที่เข้ามารักษาตัว มีอาการตกใจ


จากกรณีที่มีคลิปปรากฏในโลกโซเชียล ว่าเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี เข้าชกต่อยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูสระบุรี บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.สระบุรี เมื่อเวลา 01.20 น. ขณะที่กำลังส่งคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่ รพ.สระบุรี และคนไข้ที่เข้ามารักษาตัว มีอาการตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


จากการสอบถาม นายอโณทัย การะภักดี เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยร่วมกตัญญูสระบุรี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าได้ยินเสียงเรียกทาง ว. ของศูนย์กู้ชีพว่ามีรถยนต์กระบะประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ตกร่องถนนข้างทาง บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.หมูทอง บนถนนบายพาสสายพระพุทธฉาย ตนเองจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูสระบุรีอีก 5 นายได้รุดไปยังที่เกิดเหตุทันที่ จากนั้นจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำคนเจ็บซึ่งเป็นหญิง1ราย เพื่อที่จะนำไปส่งยัง รพ.สระบุรี จากนั้นได้มีรถของกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรีเข้ามาเปิดที่กระบะท้ายเพื่อที่จะนำคนเจ็บออกมาขึ้นรถของตนเอง แต่ตนเองไม่ยอมเนื่องจากได้นำคนเจ็บขึ้นรถไปแล้วและกำลังทำการให้ออกซิเจนอยู่ ตนเองจึงได้ขับรถออกไปโดยมีรถของกู้ภัยสว่างเข้าทำการประกบตลอดเส้นทางโดยมีการปาดหน้าปาดหลังพร้อมวิทยุเรียกกำลังเสริมมาที่ รพ.สระบุรี และเมื่อถึง รพ.สระบุรีได้นำคนเจ็บส่งบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน ก็ได้มีเสียงร้องด่าของกู้ภัยฯ ดังกล่าวด้วยคำหยาบคาย พร้อมกับวิ่งกรูกันเข้ามารุมชกต่อย ตามภาพที่ปรากฏในคลิป

ด้านนางชเนตต์ พูนนิพงษ์ กรรมการเลขานุการบริหารกู้ชีพ กู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี และรักษาการหัวหน้าจุดเมือง กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดการชกต่อยกันของ 2 กู้ภัยว่า เนื่องจากเมื่อปี 2548 ได้มีการแบ่งเขตการให้ความช่วยเหลือกับประชาชนที่ประสบเหตุ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเขตที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯสว่างสระบุรี รับผิดชอบอยู่ และถึงที่เกิดเหตุในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แต่เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูก็ยังจะเอาผู้บาดเจ็บขึ้นรถไปอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเราก็ได้บอกไปแล้วว่าเป็นเขตรับผิดชอบของกู้ภัยฯสว่าง ซึ่งขณะที่ขับรถตามกันอยู่นั้นทางศูนย์กู้ภัยสว่างได้ยินเสียงเรียกทาง ว.ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูสระบุรีว่าขอกำลังเสริมมาที่ รพ.สระบุรี ทางตนเองจึงได้เรียกกำลังเสริมเข้ามาบ้าง ทางด้านนางชเนตต์ กล่าวต่อว่า สาเหตุของการเกิดการชกต่อยกันเกิดขึ้นนั้นเกิดจากว่า ทางศูนย์กู้ภัยฯสว่าง ได้ให้สมาชิกกู้ภัยฯสว่างพ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกจำนวน 7 คน และมีผู้ลาออกไปอีก 4 คน เนื่องจากมีปัญหากับผู้ร่วมงานในการปฏิบัติหน้าที่ และได้ไปรวมตัวกันเข้าเป็นสมาชิกของ มูลนิธิร่วมกตัญญูสระบุรี จากนั้นจะคอยเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของกู้ภัยฯสว่างสระบุรี และในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวก็ได้มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุมาแล้วถึง 3 ครั้ง และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯสว่างจึงเกิดอาการไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ชกต่อยกันเกิดขึ้นตามภาพที่ปรากฏในคลิป 


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ รพ.สระบุรี เพื่อขอเข้าตรวจดูกล้องวงจรปิดของ รพ.สระบุรี ถึงสาเหตุของการรุมชกต่อยกันระหว่างเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูสระบุรี ขณะที่กำลังส่งผู้ได้รับบาดเจ็บจากรถกระบะตกร่องข้างถนน เข้าห้องฉุกเฉินของ รพ.สระบุรี ซึ่งในภาพจะเห็นมีการรุมชกต่อยกัน และจะมีอีกกลุ่มคอยห้ามกันไว้ จากนั้นได้มีวัยรุ่นซึ่งแต่งกายสวมกางเกงสีน้ำเงิน ขาดหัวเข่าสีขาว สวมเสื้อยืดสีฟ้า วิ่งเข้ามาไล่ชกต่อยกลุ่ม กู้ภัยร่วมกตัญญู จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างไว้ยัง สภ.เมืองสระบุรี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย

นพ.สมพงษ์ ชลคีรี ผอ.ศูนย์รับแจ้งเหตุ และสั่งการการแพทย์ฉุกเฉิน รพ.สระบุรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าว เป็นความขัดแย้งกันระหว่างอาสาสมัคร 2 มูลนิธิ บังเอิญมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันภายในโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรีให้เข้ามาระงับเหตุ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประชุมของผู้บริหารมูลนิธิ ร่วมกับตำรวจ และสาธารณสุข เพื่อดำเนินการวางมาตรการ การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้นอีกในอนาคต ส่วนในเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีนั้นทาง รพ.สระบุรีไม่ได้แจ้งความแต่อย่างได

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.สมศักดิ์ อึ่งน้อย ร้อยเวร สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่าหลังจากนี้ จะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลงกัน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานในวันเกิดเหตุหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย