กทม. 28 ส.ค.-หลังศาลชั้นต้นพิพากษาคดีทุจริตเงินค่าโฆษณา อสมท กับบริษัทไร่ส้ม เมื่อปีที่แล้ว และตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน รวมทั้งนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้บริหารบริษัทไร่ส้ม และได้โอนสำนวนไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ศาลอุทธรณ์ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้อีกครั้ง
เอกสารที่มีรอยลบปรากฏอยู่หลายจุด เป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณา อสมท และรับผิดชอบคิวโฆษณาของบริษัทไร่ส้ม ในรายการคุยคุ้ยข่าว ออกอากาศช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ขณะนั้นบริษัทไร่ส้มได้เวลาโฆษณาในรายการไม่เกิน 2 นาทีครึ่ง ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่เกิน 5 นาที หากเกินจะต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาเพิ่มให้กับ อสมท
แต่เมื่อปี 48-49 อสมท พบความผิดปกติ เมื่อข่าวเที่ยงคืนออกอากาศล่าช้า จนตรวจสอบพบว่ามีการโฆษณาเกินเวลา และไม่เรียกเก็บค่าโฆษณาส่วนเกินนานถึง 1 ปี ทำให้ อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท และยังพบใบหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่บริษัทไร่ส้มจ่ายให้พิชชาภา และใบเสร็จนำฝากเงินเข้าบัญชีธนาคาร รวมถึงมีเช็คที่สั่งจ่ายในลักษณะเดียวกัน 6 ฉบับ เป็นเงินกว่า 700,000 บาท
นำไปสู่การดำเนินคดีแพ่งให้บริษัทไร่ส้มต้องชดใช้เงินค่าโฆษณาส่วนเกินแก่ อสมท และดำเนินคดีอาญาจำเลย 4 คน รวมทั้งนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการและกรรมการบริษัทไร่ส้ม ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว จำคุกนางพิชชาภา 30 ปี ลดโทษเหลือ 20 ปี ในความผิดฐานรับเงินทำให้หน่วยงานรัฐได้รับความเสียหาย ส่วนจำเลยที่ 2 คือบริษัทไร่ส้ม ปรับเป็นเงิน 120,000 บาท ลดเหลือ 80,000 บาท จำเลยที่ 3 นายสรยุทธ และจำเลยที่ 4 เจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้ม จำคุก 20 ปี ลดโทษเหลือ 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด แต่มีการยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 ล้านบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว
นายสรยุทธให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับคดีที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาแล้ว เพราะคดีมีโทษค่อนข้างรุนแรง กว่า 10 ปีที่คดีการทุจริตเงินค่าโฆษณา อสมท กับบริษัทไร่ส้ม เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี แม้บริษัทไร่ส้มยินยอมชดใช้เงินค่าโฆษณาส่วนเกิน พร้อมดอกเบี้ยให้กับ อสมท ไปแล้วก่อนหน้านี้ เป็นเงินกว่า 152 ล้านบาท แต่การดำเนินคดีอาญาตั้งแต่ศาลชั้นต้น จนมีคำพิพากษา ทำให้นายสรยุทธต้องหยุดการทำหน้าที่พิธีกร และเดินทางมาศาลบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีนี้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย