สั่งตำรวจทั่วประเทศหาตัว”ยิ่งลักษณ์”รายงานผล 1 ส.ค.นี้

กทม.28 ส.ค.- รอง ผบ.ตร.สั่งทุกกองบัญชาการทั่วประเทศปูพรหา”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หลังไม่พบตัวที่บ้าน ให้รายงานผลภายใน 1 กันยายนนี้


พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตำรวจทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ ชุดสืบสวนปฏิบัติการค้นหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว  และให้รายงานผลการตรวจสอบกลับมาภายใน 1 กันยายนนี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบตามช่องทางด่านชายแดนและให้ตำรวจพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยหลักฐานช่องทางธรรมชาติที่คาดว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ใช้หลบหนีออกนอกประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปแถลงต่อศาลฎีกาฯว่านางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนีจริงหรือไม่ หากหลบหนีจริงศาลฎีกาฯก็จะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ทันที 


ขณะที่กองการต่างประเทศ ได้ประสานไปยังตำรวจสากล 190 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามที่มีกระแสข่าวว่านางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีไปพบนายทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องรอให้ตำรวจอินเตอร์โพลรายงานผลกลับมา รวมถึงได้ตรวจสอบไปยังผู้ช่วยทูตตำรวจไทยที่ประจำประเทศกัมพูชา ก็ยืนยันว่าไม่พบนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไป ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะสอบถามมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนดำเนินการเพิกถอน            

พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุอีกว่า ข้อมูลสุดท้ายที่ตำรวจพบความเคลื่อนไหวของนางสาวยิ่งลักษณ์คือเวลา 14.00 น. ของวันที่ 23 สิงหาคม ยังอยู่ที่บ้านพักโดยขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่านางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางไปเพื่อหาเบาะแส 

พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังยืนยันว่า ตำรวจไม่มีหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวนางสาวยิ่งลักษณ์ เนื่องจากจะเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญแต่จะสามารถติดตามตัวได้หลังศาลออกหมายจับตามเส้นทาง social media ทั้ง facebook บัญชีชื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่พบความเคลื่อนไหวหลังจากศาลออกหมายจับ สวนกระแสข่าวนางสาวยิ่งลักษณ์เข้าพักที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เลียบด่วนรามอินทรา คืนวันที่ 23 สิงหาคมแล้ววันรุ่งขึ้น(24 ส.ค.) เดินทางไปจังหวัดตราด ข้ามไปเกาะช้างออกไปกัมพูชา เป็นเพียงข้อมูลซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะเรียกพันตำรวจเอกวทัญญู วิทยผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร สบ. 4 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาสอบสวนหาข้อมูลนางสาวยิ่งลักษณ์ในฐานะ อารักขาและอยู่ใกล้ชิดนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าพันตำรวจเอกวทัญญู ยังอยู่ในราชการหรือไม่ หากยังรับราชการก็อาจจะเรียกมาให้ข้อมูลซึ่งเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 


พลตำรวจเอกศรีวราห์  ไม่เชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะหนีการฟังคำพิพากษาคดี เพราะที่ผ่านมาจากพฤติการณ์ของนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางมาศาลทุกนัด จึงไม่คาดคิดว่าจะหลบหนี ในส่วนของตำรวจมุ่งเน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัย ป้องกันมือที่สามก่อเหตุและอำนวยความสะดวกการจราจรเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง