กลุ่ม ปตท.ลุยลงทุนเวียดนามต่อแต่ปรับขนาดโรงกลั่นเน้นปิโตรเคมี

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. –  กลุ่ม ปตท.ยังเดินหน้าศึกษาลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนามต่อ แม้ซาอุฯ จะถอนตัว และท่าทีจังหวัด Binh Dinh พื้นที่ลงทุนอาจปรับแผนไม่ส่งเสริมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี พร้อมปรับแผนใหม่ลดขนาดโรงกลั่นฯ เน้นเป็นเพิ่มผลผลิตปิโตรเคมีให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี


นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี  (IRPC) เปิดเผยว่า จากที่ บมจ.ปตท.มอบหมายให้ไออาร์พีซีเป็นผู้ศึกษาโครงการลงทุนโรงกลั่นและปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนามของกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) ฉบับปรับปรุงใหม่ (Victory Project Reconfiguration) เบื้องต้นปรับปรุงใหม่เป็นโรงกลั่นที่เน้นด้านการผลิตปิโตรเคมีเป็นหลัก เพื่อรองรับกับเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลงที่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มาแทนที่รถใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น และในเวียดนามเองก็มีการสร้างโรงกลั่นในประเทศเกิดขึ้นแล้ว 2 แห่ง

สำหรับผลการศึกษา Victory Project Reconfiguration ในเวียดนามฉบับปรับปรุงใหม่เบื้องต้นปรับขนาดการลงทุนโรงกลั่นน้ำมันลงเหลือ  200,000 บาร์เรล/วัน จากเดิม 400,000 บาร์เรล/วัน กำลังการผลิต Olefins  3 ล้านตัน/ปี  Aromatics 1.4 ล้านตัน/ปี เงินลงทุนประมาณ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 18,000-20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะได้ผลผลิตน้ำมันเพียงน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน รวม 70,000-80,000 บาร์เรล/วัน หรือประมาณร้อยละ 35-40 เท่านั้น ขณะที่ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบในการผลิตปิโตรเคมีประเภทต่าง ๆ เช่น LLDPE, HDPE, PP, PX, Benzene , Butadiene เป็นต้น คาดว่าจะสร้างกำไรขั้นต้นจากการกลุ่มผลิตของกลุ่ม (GIM) ระดับ 25-30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ระดับร้อยละ 12-14


อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเรื่องพื้นที่ลงทุนที่สิ้นปีนี้จะรับทราบชัดเจนว่ารัฐบาลท้องถิ่นจังหวัด Binh Dinh ว่าจะยังให้การสนับสนุนโครงการปิโตรเคมีอยู่หรือไม่ หากทางจังหวัดไม่เห็นชอบก็ต้องหาพื้นที่อื่นในเวียดนามต่อไป ขณะเดียวกันกลุ่มปตท.ก็ต้องหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่  หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัท ซาอุดิอารัมโก (Saudi Aramco) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดิอาระเบียถอนตัวจากการร่วมทุนร้อยละ  40 ในโครงการ โดยกลุ่ม ปตท.ยังคงตั้งเป้าหมายจะถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 50

“ปี 2560 คงจะทราบชัดเจนว่าการลงทุนในเวียดนามจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ หากหาพื้นที่ไม่ได้ไออาร์พีซี ก็จะลงทุนในประเทศไทยในโครงการพาราไซลีน (PX) ที่บริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเอง จากเดิมเคยศึกษาโครงการร่วมกันระหว่าง บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) อาจมีกำลังผลิต 900,000 ตัน/ปี โดยนำวัตถุดิบจากของบริษัททั้งหมดมาจากโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) โดยต้องดูสถานการณ์และดูความสามารถในการลงทุนของไออาร์พีซีเองด้วย เราคงไม่ลงทุน 2 โครงการพร้อมกัน”นายสุกฤตย์ กล่าว

ทั้งนี้ ประเทศเวียดนามที่ยังมีความต้องการใช้ปิโตรเคมีค่อนข้างสูง โดยความต้องการใช้ปิโตรเคมีจะเติบโตมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัวปีละร้อยละ 6-7 กำลังผลิตไม่เพียงพอ โดยมีโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเพียง 2 แห่ง โดยโรงแรกกำลังกลั่น 100,000 บาร์เรล/วัน ทำโพรไพลีนบางส่วน ส่วนโรงที่ 2 เสร็จปลายปี 2560 กำลังกลั่น 200,000 บาร์เรล/วัน เน้นการกลั่นและทำอะโรเมติกส์ไม่มาก ส่วนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ Long Son Petrochemicals ของกลุ่ม บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) อยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง โครงการนี้หาผู้ร่วมทุนใหม่แทน Qatar Petroleum International  หากก่อสร้างเสร็จก็ยังไม่เพียงพอ เพราะความต้องการปิโตรเคมีของเวียดนามยังสูงมาก


ส่วนผลดำเนินการของไออาร์พีซีปี 2559 นายสุกฤติย์  ยังเชื่อมั่นว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิมากกว่าปีที่แล้วที่ 9,400 ล้านบาทในปีที่แล้ว แม้ว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย, ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) นั้นก็อาจจะทำไม่ได้ตามเป้าหมาย หลังโครงการ  EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถองค์กรในทุกด้านนั้นสามารถสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี  (EBIT) ได้เพียง 2,700 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะสร้าง EBIT ได้ 3,400 ล้านบาท เป็นผลมาจากโครงการ UHV ล่าช้ากว่าแผน โดยเสร็จสิ้นเดือนกรกฎาคม จากเดิมที่ต้องเดินเครื่องผลิตไตรมาส 1/2559 ด้านแนวโน้ม ค่าการกลั่นรวม หรือ GIM ปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้วด้วย แต่ในส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นปีนี้ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้ ๆ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้คาดว่าธุรกิจโรงกลั่นในสิ้นไตรมาส 4/2559 น่าจะมีกำไรจากสตอกน้ำมัน แม้ว่ามาร์จิ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะต่ำกว่าครึ่งปีแรกก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]